บอร์ด ทอท.อนุมัติ “เอ็มพีเม็ก” ฮุบสัมปทานที่จอดรถดอนเมือง 15 ปี “ประสงค์” ยันตรวจสอบไม่พบมีแบล็กลิสต์ ไร้ประวัติทิ้งงาน โชว์ใบเสร็จใช้หนี้แหลมบาลีฮายพัทยาหมดแล้วเดินหน้าเซ็นสัญญา วงในระบุเจ้าของบริษัทเป็นอดีตบิ๊กเตรียมทหารรุ่น 12 ขณะที่บอร์ดสั่งยกเลิกประมูล APM ใช้วิธีพิเศษเรียกเสนอราคาใหม่
นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ทอท.เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ได้มีมติอนุมัติผลการประมูลงานให้สิทธิประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการอาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง 1,500 คัน ระยะเวลา 15 ปี ซึ่ง บ.เอ็มพีเม็ก จำกัด เป็นผู้เสนอผลตอบแทนสูงสุด ส่วนประเด็นที่บริษัทฯ ถูกร้องเรียนเรื่องคุณสมบัตินั้น ทอท.ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วได้รับการยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ทิ้งงานในโครงการอาคารจอดรถอัตโนมัติของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนกรณีถูกยกเลิกสัมปทานที่จอดรถบาลีฮาย เมืองพัทยา ตรวจแล้วบริษัทฯ ได้มีการชำระหนี้ครบแล้วโดยแสดงใบเสร็จเป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ ได้ตรวจสอบไปยังกรมบัญชีกลางไม่พบชื่อบริษัทในชื่อบัญชีผู้ทิ้งงาน จึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะไม่อนุมัติ
ทั้งนี้ ทอท.ประมูลก่อสร้างและบริหารอาคารจอดรถโดยให้เอกชนลงทุนทั้งหมด โดยทรัพย์สินจะตกเป็นของรัฐทันที (BTO) โดยเลือกรายที่เสนอผลตอบแทนสูงสุด หากบริษัทไม่สามารถทำงานได้ ทอท.สามารถดำเนินการได้ต่อ เพราะอาคารตกเป็นของ ทอท.แล้ว ซึ่งได้กำชับให้ฝ่ายบริหารติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งที่จอดรถสนามบินดอนเมืองมีความแออัด จำเป็นต้องเร่งก่อสร้างอาคารเพิ่มซึ่งจะมีระบบไอทีสามารถจองล่วงหน้า การันตีมีที่จอดแน่นอน พร้อมระบบ CCTV เชื่อมกับมือถือเจ้าของรถสามารถเปิดดูรถของตัวเองได้ตลอดเวลา
“ทอท.ต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน ซึ่งโครงการนี้ลงทุนเกือบ 800 ล้านบาท ผู้ชนะเสนอทำที่จอดรถได้ 2,600 คัน ทำให้จะมีพื้นที่จอดรถได้มากขึ้น ส่วนการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในที่จอดรถหากจะมีต้องเจรจาต่างหากและ ทอท.ต้องได้ประโยชน์ ยอมรับว่า ร้องเรียนประมูลมีตลอด เพราะมีคนได้ต้องมีคนไม่ได้”
รายงานข่าวแจ้งว่า บอร์ด ทอท.แสดงความกังวลเรื่องคุณสมบัติของ บ.เอ็มพีเม็ก และกำชับให้ฝ่ายกฎหมาย ทอท.ตรวจสอบให้รอบคอบและบันทึกการประชุมให้ชัดเจนไม่ให้มีปัญหาภายหลัง เนื่องจากเอกสารบางส่วนเป็นการยืนยันมาโดยบริษัทเอง และการเป็นผู้ถูกเลิกจ้างและค้างชำระเงินถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แม้คดีจะจบแล้วแต่ก็เป็นผู้มีประวัติ การค้างชำระก็เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะผลตอบแทน 2,233,669 บาทต่อเดือนนั้นสูงมาก ซึ่งคาดว่าจะมีการเจรจาขอลดหย่อนหรือขอพัฒนาพื้นที่เพื่อเพิ่มรายได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าประธานบริษัทดังกล่าวเป็นนายทหารเรือ เตรียมทหารรุ่น 12 อีกด้วย
โดย ทอท.ได้เปิดประมูลงานให้สิทธิประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการอาคารจอดรถยนต์ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวนไม่น้อยกว่า 1,500 คัน ระยะเวลา 15 ปี ซึ่งเอกชนจะต้องลงทุนก่อสร้างอาคารจอดรถ พร้อมติดตั้งระบบจัดเก็บค่าจอดรถและบริหารจัดการตลอดอายุสัมปทาน โดยโครงการมีมูลค่าลงทุนประมาณ 680 ล้านบาท
กำหนดใช้วิธีประมูลด้วยการเสนอค่าตอบแทน โดยจะให้คะแนนด้านเทคนิคก่อน จากนั้นจะเปิดข้อเสนอด้านผลตอบแทน โดยขายเอกสารประมูลเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 60-28 เม.ย. 60 ปรากฏว่ามีผู้ซื้อซองจำนวน 15 ราย กำหนดให้ยื่นซองในวันที่ 15 พ.ค. 60 มีผู้มายื่นประมูล 5 ราย ได้แก่ 1. บริษัท เอ็มพีเม็ก จำกัด 2. บริษัท ปาร์ค 2 โก จำกัด ในนามกิจการร่วมลงทุน NWR-P2G Consortium ประกอบด้วย บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปาร์ค 2 โก จำกัด 3. บริษัท เป๋าตังค์ จำกัด 4. บริษัท สมบุญ พัฒนา จำกัด 5. บริษัท เจนก้องไกล จำกัด ในนามกิจการร่วมค้า "เจนก้องไกลฟอร์คอน" ประกอบด้วย บริษัท เจนก้องไกล จำกัด และ บริษัท ฟอร์คอน จำกัด โดยได้ให้ทั้ง 5 บริษัทนำเสนอผลงาน (Presentation) ในวันที่ 18 พ.ค. สรุปผลด้านเทคนิคในวันที่ 23 พ.ค. ปรากฏว่ามี 3 รายที่ได้คะแนนเท่ากันที่ 70 คะแนน คือ บ.เอ็มพีเม็ก, NWR-P2G Consortium และ บ.สมบุญ พัฒนา เมื่อเปิดข้อเสนอผลตอบแทน และรวมคะแนนด้านเทคนิคและผลตอบแทน ปรากฏว่าเหลือ 2 รายที่มีคะแนนสูงสุดเท่ากันที่ 90 คะแนน คือ บ.เอ็มพีเม็ก และ บ.สมบุญ พัฒนา ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงให้ 2 รายเสนอผลตอบแทนใหม่ ซึ่งปรากฏว่า บ.เอ็มพีเม็กเสนอเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำให้ ทอท.สูงสุดที่ 2,233,669 บาทต่อเดือน ส่วน บ.สมบุญ พัฒนา เสนอราคา 1,567,000 บาทต่อเดือน
โครงการนี้จึงถูกจับตามองถึงความไม่ชอบมาพากล ตั้งแต่คุณสมบัติของผู้ได้รับคัดเลือกเพราะมีประวัติถูกเลิกจ้างมาก่อน และยังมีขั้นตอนการประมูลที่ให้เขียนราคาเสนอกันใหม่ทั้งที่มีซองราคาเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้บอร์ดมีมติให้ทำที่จอดรถอัตโนมัติแต่กลับเปลี่ยนเป็นที่จอดรถธรรมดาภายหลังอีกด้วย ซึ่ง ทอท.ได้ชี้แจงว่า TOR ข้อ 7.5 ระบุว่า “กรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานมีผลของคะแนนรวมสูงสุดเท่ากันหลายราย ให้ผู้ยื่นเสนอค่าตอบแทนใหม่พร้อมกันโดยวิธีการยื่นซองเสนอค่าตอบแทน แต่ทั้งนี้ค่าตอบแทนที่เสนอใหม่จะต้องไม่ต่ำกว่าที่เสนอไว้ในครั้งแรก และคุณสมบัติผู้เสนอต้องไม่เป็นผู้ถูก ทอท.บอกเลิกสัญญาหรือมีหนี้สินค้างชำระ หรือต้องไม่เป็นผู้ที่มีข้อพิพาทที่ถึงขั้นฟ้องร้องในกระบวนการศาล หรืออนุญาโตตุลาการ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชัน ที่มีนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย เป็นประธาน ได้ยื่นหนังสือถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช., นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการประมูลงานบริหารจัดการอาคารจอดรถยนต์ สนามบินดอนเมืองของ ทอท.ว่าเป็นการดำเนินการที่อาจปิดกั้นผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานที่สุจริต ไม่ให้เตรียมตัวต่อการเสนอราคา และ/หรือมีการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือไม่ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้าใดๆ
***ล้มประมูล APM อีก บอร์ดสั่งประมูลพิเศษหวั่นล่าช้า
นอกจากนี้ นายประสงค์ยังกล่าวว่า บอร์ดได้มีมติยกเลิกประมูลจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ราคากลาง2,894,959,247.20 บาท เนื่องจากได้คะแนนผ่านเกณฑ์ 2 กลุ่ม คือ 1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD 2. กิจการร่วมค้า IRTI (บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท ที.อี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และท่าอากาศยานอินชอน เสนอสูงกว่าราคากลางและเจรจาต่อรองไม่ได้ โดยให้เปิดประมูลใหม่โดยใช้วิธีพิเศษเรียกทุกบริษัทที่มีคุณสมบัติมาเสนอราคาใหม่ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ล่าช้า โดยยังคงยืนราคากลางเดิมไว้ ตั้งเป้าสรุปในเดือน ก.ค.