“พาณิชย์” ชี้แจงกรณีบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ไม่ได้รับการอนุมัติขายข้าวที่ยื่นประมูล เหตุตรวจสอบพบขาดคุณสมบัติเพราะกรรมการบริษัทเคยเป็นกรรมการในนิติบุคคล 2 รายที่เป็นจำเลยในคดีผิดสัญญาโครงการมันสำปะหลัง และจนบัดนี้แม้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ชำระเงินคืนรัฐแต่ก็ยังไม่ยอมจ่าย ส่วนการตรวจสอบการนำข้าวไปใช้ของผู้ชนะประมูล ยืนยัน อคส. อ.ต.ก.มีการตรวจสอบเข้มอยู่แล้ว
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว เปิดเผยถึงกรณีบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ร้องเรียนว่าได้เข้าประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมและเป็นผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด แต่ไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจำหน่าย พร้อมทั้งขอให้ภาครัฐตรวจสอบบริษัทที่ชนะการประมูลว่าสามารถนำข้าวไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ว่า คณะทำงานรับซองเสนอราคาซื้อได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจสอบเอกสารหลักฐานของบริษัท ที พี เค เอทานอล พบว่ากรรมการของบริษัทเคยเป็นกรรมการในนิติบุคคล 2 ราย ที่เป็นจำเลยที่กระทำผิดสัญญาตามโครงการยกระดับราคาหัวมันสำปะหลังโดยผ่านกลไกการผลิตและการตลาดปี 2536/37 ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนแก่กรมการค้าต่างประเทศ แต่จนบัดนี้ทั้ง 2 รายยังไม่ชำระหนี้เงินตามคำพิพากษาแต่อย่างใด บริษัท ที พี เค เอทานอล จึงถือเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เสนอซื้อมาตั้งแต่ต้น
“หลังจากตรวจสอบพบว่า บริษัท ที พี เค เอทานอล มีความสัมพันธ์กับบริษัทที่เคยทำความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งผิดเงื่อนไขของประกาศประมูลข้าวที่มีวัตถุประสงค์ ต้องการให้การระบายข้าวในสต๊อกของรัฐเป็นไปด้วยความโปร่งใส รัดกุม และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เคยกระทำความเสียหายแก่ทางราชการ กรมฯ จึงได้ดำเนินการตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด โดยนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว พิจารณาตามขั้นตอน รวมทั้งได้เสนอให้ประธานกรรมการ นบข.ให้ความเห็นชอบแล้ว”
ทั้งนี้ กรมฯ ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวยังได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้บริษัท ที พี เค เอทานอล ทราบแล้ว ซึ่งบริษัทมีสิทธิจะชี้แจงหรือโต้แย้งได้ตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ส่วนประเด็นที่บริษัท ที พี เค เอทานอล ขอให้ภาครัฐตรวจสอบการนำข้าวไปใช้ของผู้ชนะการประมูลแต่ละรายนั้น เป็นเรื่องอยู่ในกระบวนการที่ นบข.ได้กำหนดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จัดมาตรการและดำเนินการตรวจสอบและติดตามการนำข้าวไปใช้อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันข้าวดังกล่าวรั่วไหลเข้าสู่ตลาดปกติ ซึ่งหากพบว่ามีผู้ซื้อรายใดนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามประกาศฯ จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำผิดสามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดอีกทางด้วย
สำหรับหลักเกณฑ์ของประกาศคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ เรื่องการจำหน่ายข้าวในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2560 ลงวันที่ 12 เม.ย. 2560 ข้อ 2. คุณสมบัติผู้เสนอซื้อระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้เสนอซื้อจะถูกพิจารณาให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติหากเคยมีหรือมีพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (3) เป็นผู้กระทำการใดๆ ที่เป็นผลเสียหายแก่ทางราชการหรือการค้าระหว่างประเทศหรือโครงการแทรกแซงสินค้าเกษตรภายใต้นโยบายของรัฐบาล หรือมีหรือเคยมีประวัติเป็นผู้ถูกชี้มูลความผิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (4) มีข้อมูลหรือหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีความสัมพันธ์กับนิติบุคคล หรือกรรมการ หรือผู้ถือหุ้น หรือผู้เป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ทำความเสียหายตามข้อ (3) หากปรากฏในภายหลังว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ (1) ถึง (4) จะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้นและให้ดำเนินการตามข้อ 10 วรรคสอง