“กพท.” มอบ AOC ใหม่ให้ “นกสกู๊ต” และ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” สองสายการบินราคาประหยัดของไทยที่ให้บริการระหว่างประเทศ ตามมาตรฐาน ICAO “อาคม” สั่ง 2 สายเร่งเดินหน้าเปิดเส้นทางบินดึงนักท่องเที่ยวเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในประเทศ เล็งจีน-ญี่ปุ่นตลาดสำคัญ ด้าน กพท.คาด มิ.ย.เตรียมมอบ AOC ให้นกแอร์-ไทยสมายล์-ไทยไลอ้อนแอร์ เผยสิ้น มิ.ย.ยื่น ICAO ตรวจซ้ำ มั่นใจปลดธงแดง ขีดเส้น ก.ย.สายการบินไม่ได้ AOC ใหม่ต้องหยุดบิน คาดมีประมาณ 10 สายส่อไม่ผ่าน
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้เชิญผู้บริหาร สายการบินนกสกู๊ต และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ข้าร่วมประชุมสรุปผลและรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) ซึ่งถือเป็นสายการบินรายที่ 4 และ 5 ที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-AOC) โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามแผนสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ กพท.จะยื่นไปยังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และคาดว่าในเดือน ก.ย. ICAO จะเข้ามาตรวจซ้ำ ทั้งนี้ เมื่อนกสกู๊ต และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับ AOC ใหม่แล้ว ฝากให้พิจารณาเส้นทางบินเพราะมีหลายประเทศที่ไม่ติดใจเรื่องธงแดง ซึ่งการเปิดบินเพิ่มจะเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจต่อเนื่อง เช่น โรงแรม อาหาร แหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.กล่าวว่า ทั้ง 2 สายการบินทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศอย่างเดียวไม่มีเส้นทางภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นตัวแทนของไทยที่จะแข่งขันกับผู้ประกอบการของต่างประเทศในเวทีที่มีการต่อสู้กันมากที่สุด โดยได้เริ่มดำเนินการพร้อมๆ กันเมื่อ 15 ก.ย. 2559 ตรวจสอบเอกสาร สถานีหลัก ภาคอากาศ และพบข้อบกพร่อง (Finding) น้อยที่สุด รวมเวลา 9 เดือนจึงเสร็จสิ้นกระบวนการและได้รับ AOC ใหม่ เป็นการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานซึ่งหลังจากนี้ กพท.จะติดตามตรวจสอบมาตรฐานตลอดเวลา
โดยภายในเดือน มิ.ย.นี้คาดว่าจะมอบ AOC ใหม่ให้แก่สายการบินนกแอร์ได้ รวมถึงไทยสมายล์ และไทยไลอ้อนแอร์ ที่อยู่ในขั้นตอนใกล้จะได้รับเช่นกัน ทั้งนี้ได้เจรจากับ ICAO หลังจากยื่นให้มาตรวจซ้ำแล้ว สายการบินที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จยังคงสามารถทำการบินต่อไปได้จนถึง 1 ก.ย. หากยังไม่ได้รับ AOC ใหม่จะต้องหยุดบินซึ่งประเมินว่าจะมี 12-14 สายที่ได้รับ AOC ใหม่ คิดเป็นสัดส่วนการขนส่งผู้โดยสาร 95% จากทั้งหมด 23 สายที่เข้ารับการตรวจสอบ ส่วนที่เหลือเป็นสายการบินขนาดเล็กและเช่าเหมาลำที่ไม่กระทบมากนัก
“กพท.ได้มอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) ให้กับสายการบินของไทย รวมในครั้งนี้แล้วทั้งหมด 5 สายการบิน ซึ่งมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศรวมแล้วถือเป็นประมาณ 77% จากเส้นทางการบินระหว่างประเทศทั้งหมดของสายการบินสัญชาติไทย ตามเงื่อนไข ICAO ตอนนี้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) 33 ข้อไปแล้วกว่า 80% จึงค่อนข้างมั่นใจเรื่องการปลดธงแดง ส่วนกระบวนการ Re-AOC จะเดินต่อไปไม่หยุด”นายจุฬากล่าว
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกสกู๊ต กล่าวว่า ปัจจุบันนกสกู๊ตมีเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 จำนวน 3 ลำ ซึ่งได้ทำการบินเต็มที่ใน 6 จุดบิน ได้แก่ นานกิง ชิงเต่า เทียนจิน เสิ่นหยาง ต้าเหลียน ไทเป โดยมี Cabin Factor ประมาณ 85% โดยตั้งเป้าปีนี้ขนผู้โดยสารที่ 1.1 ล้านคน ส่วนหลังได้รับ AOC ใหม่แล้วจะศึกษาเพื่อเปิดเส้นทางบินเพิ่ม โดยจะต้องประเมินให้สอดคล้องกับฝูงบินซึ่งภายในปีนี้จะมีเครื่องบินมาเพิ่มอีก 1 ลำ โดยมองไปที่เส้นทางเอเชียเหนือ จีนและญี่ปุ่น คาดว่าจะเป็นปีหน้า โดยจะรอให้ปลดธงแดงได้ก่อนเพื่อความมั่นใจในการหาเครื่องบินเพิ่ม
นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า บริษัทฯ มองเส้นทางบินไปยังเอเชียเหนือ ส่วนจุดบินต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเส้นทางปัจจุบัน นาริตะ, คันไซ, อินชอน ยังเป็นเส้นทางที่ดี
อย่างไรก็ตาม ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มุ่งมั่นในการดำเนินงานและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการตรวจสอบและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐาน ICAO ซึ่งใบรับรองที่เราได้รับในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงมาตรฐานในระดับสากลของสายการบิน โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการให้บริการ และเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคน ทุกแผนกของเรายึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดนับตั้งแต่ที่เริ่มให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 2557 ในฐานะสายการบินราคาประหยัดที่ให้บริการเส้นทางบินระยะไกลรายแรกของไทย โดยหลังจากนี้ทางสายการบินก็ยินดีที่จะร่วมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดธงแดงได้ตามกรอบที่วางเอาไว้ พร้อมยกระดับมาตรฐานการบินของประเทศต่อไป