xs
xsm
sm
md
lg

ถก กมธ.ร่วมไทย-ญี่ปุ่น ร่วมดันโปรเจกต์ 1.5 ล้านล้านในอีอีซี-ร่วมพัฒนา 4.0 เชื่อมโยงเพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่นถกหาแนวทางร่วมพัฒนาโครงการ 1.5 ล้านล้านในอีอีซี ประเมินความคืบหน้ารถไฟชินคันเชน กทม.-เชียงใหม่ ระบบรางใน กทม.-ปริมณฑล พร้อมเชื่อมโยงการพัฒนากับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงทางดิจิตอล-การค้า-อุตสาหกรรม

วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น (High Level Joint Commission : HLJC) ครั้งที่ 3 ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยมีนายโยะชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วม การหารือครอบคลุมความร่วมมือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจรอบด้าน

หัวใจสำคัญของการหารือครั้งนี้คือ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่มุ่งเน้น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือที่เป็นไปได้ในการพัฒนา “4 พื้นที่เพื่อการพัฒนา-15 โครงการหลัก-5 โครงการลำดับสูงสุดในปี 2560” ที่จะมีการลงทุน 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกกรุงเทพฯ-ระยอง โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเรือสัตหีบ และท่าเรือมาบตาพุด รวมทั้งการพัฒนาเมืองใหม่ 3 แห่งในภาคตะวันออก

ที่ประชุมยังได้แสดงความยินดีกับการลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงด้านความร่วมมือเพื่อพัฒนา EEC ระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) กับกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือของญี่ปุ่นด้านการยกระดับอุตสาหกรรมไทย

ทั้งสองฝ่ายได้ประเมินความคืบหน้าความร่วมมือระบบรางในภาพรวม โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี “ชินคันเซ็น” ของญี่ปุ่น และการใช้เทคโนโลยีระบบรางของญี่ปุ่นเพื่อพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งได้แสดงความยินดีต่อผลการศึกษาขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) เรื่องรถไฟขนส่งสินค้าในไทย เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตามแนวตะวันออก-ตะวันตก เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาค และการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีบางซื่อ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนาเมืองและพื้นที่รอบสถานีรถไฟ ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความยินดีกับการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในด้านระบบรางอีกด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์รวมข้อมูลในไทยโดยใช้เทคโนโลยีสถานีอ้างอิงและปรับข้อมูลดาวเทียมนำทาง (Continuously Operating Reference Station : CORS) เพื่อสร้างสังคมที่มีความก้าวหน้าทางระบบสารสนเทศ โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบดาวเทียมเพื่อการนำร่องและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ของญี่ปุ่น ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความยินดีกับการลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการจัดตั้งศูนย์รวมข้อมูลดังกล่าว ระหว่างกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายแสดงความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะร่วมกันพัฒนาความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ความเชื่อมโยงทางดิจิตอลสำหรับการค้าและการเงินรูปแบบใหม่ การยกระดับการค้าข้ามชายแดน การพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภูมิภาคเพื่อรองรับอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะเป็นเนื้อหาสำคัญในแผนแม่บทกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ซึ่งไทยจะเสนอในห้วงการเป็นประธาน ACMECS ในปี 2561

ที่ประชุมยังได้หารือความร่วมมือในการเสริมสร้าง SMEs ไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเชื่อมโยงทางดิจิตอลระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CLMVT) ทั้งนี้ สองฝ่ายได้แสดงความยินดีกับการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยกับญี่ปุ่นด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรมของไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาเฉพาะ ซึ่งรวมถึงยานยนต์ ระบบราง และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีต่อการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่น กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และดิจิตอล การลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่างประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ประจำกรุงเทพฯ กับอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และการลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่างประธาน JETRO กรุงเทพฯ กับผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) และผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)








กำลังโหลดความคิดเห็น