บี.กริม เพาเวอร์ระดมทุนจากการขายหุ้น IPO ได้ราว 1 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้คืนหนี้ทั้งเงินกู้และหุ้นกู้ แย้ม ADB ควัก 75 ล้านเหรียญซื้อหุ้น 5% คาดเข้าเทรดหุ้นได้ 19 ก.ค.นี้
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะได้เงินจากการระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ราว 1หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อคืนหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน 6-7 พันล้านบาท และหุ้นกู้อีก 2 พันล้านบาท ที่เหลือใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในมือ ส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจากปัจจุบัน 3.4 เท่าเหลือ 1.5-2 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทจะขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 716.90 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.5% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว มูลค่าที่ตราไว้ 2 บาท/หุ้น โดยหุ้นดังกล่าวได้รับความสนใจจากกองทุนต่างประเทศที่ขอร่วมเป็น Cornerstone Invester หลายราย โดยเฉพาะธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ที่จะซื้อหุ้นไอพีโอคิดเป็นวงเงิน 75 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 5% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งบริษัทจะจัดสรรหุ้น IPO ให้กับเอดีบี นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ และผู้มีอุปการคุณคิดเป็น 60% ของจำนวนหุ้น IPO และหุ้นที่เหลือจะเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันในไทยและนักลงทุนรายย่อย คาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO ได้ช่วง ก.ค. และเข้าเทรดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 19 ก.ค.นี้
สำหรับแผนการลงทุนในประเทศ บริษัทมีโครงการร่วมทุนที่อยู่ระหว่างการเจรจาเสนอขายไฟ เช่น โครงการพลังน้ำ เซกอง 4 ขนาด 300-400 เมกะวัตต์ ที่ สปป.ลาว โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาเลเซีย ขนาด 300 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ และโครงการโรงไฟฟ้าที่กัมพูชา
ส่วนในไทย บริษัทได้รับเลือกจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานรัฐและสหกรณ์การเกษตร โดยได้แน่นอนแล้ว 5 โครงการ คิดเป็น 24 เมะกะวัตต์ และอีก 3 โครงการ รวม 15 เมกะวัตต์ต้องรอลุ้นจับฉลาก รวมทั้งจะจับมือกับสหกรณ์การเกษตรเสนอโครงการด้วย คาดว่าในปี 2564 มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 2,357 เมกะวัตต์ จากปีนี้มีกำลังผลิต 1,646 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ยังได้ซื้อที่ดินไว้หลายแห่งเพื่อรองรับการเปิดรับซื้อไฟฟ้าแบบ SPP Hybrid Firm ที่ภาครัฐจะเปิดรับซื้อในอนาคต รวมทั้งเตรียมลงทุนโรงไฟฟ้า SPP 5 โรง กำลังผลิตโรงละ 140-160 เมกะวัตต์ ใช้เงินโรงละ 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โรง เสนอขายไฟให้ กฟผ. 90 เมกะวัตต์/โรง และอีก 3 โรงเป็นโรงไฟฟ้า SPP ที่สร้างขึ้นเพื่อทดแทนโรงเดิมที่หมดอายุลง โดยเสนอขายไฟให้ กฟผ. 30 เมกะวัตต์/โรง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 7,651 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 2,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2% และกำไรสุทธิ1,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 1/2560 รับรู้รายได้และกำไรจากโรงไฟฟ้าที่เปิดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อปีก่อนจำนวน 4 โรง