xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” จีบสำเร็จ 4 บริษัทญี่ปุ่นจ่อลงทุนในอีอีซี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
รองนายกฯ เผยผลสำเร็จคุยตัวแทน 4 บริษัทญี่ปุ่นจ่อลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้าน ในพื้นที่อีอีซี เตรียมปาฐกถางาน “นิกเกอิ ฟอรัม” พรุ่งนี้ ให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด

วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการเดินทางเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 4-8 มิ.ย.นี้ว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาได้มีตัวแทนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อหารือถึงการลงทุนในประเทศไทย โดยมีบริษัทน่าสนใจที่สุดคือ บริษัท สไปเบอร์ อิงค์ (Spiber Inc.) ที่เป็นสตาร์ทอัพ เริ่มต้นจากงานวิจัยของนักศึกษา 3 คน สร้างผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากโปรตีนที่มีความแข็งแรงกว่าเหล็กหลายร้อยเท่า ปัจจุบันเป็นพาร์ตเนอร์กับโตโยต้าในการผลิตวัสดุที่ใช้ในรถ และบริษัทผลิตเสื้อกันหนาวสำหรับไต่เขา บริษัทนี้มีโครงการที่จะออกไปตั้งโรงงานในต่างประเทศ อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเลือกสหรัฐอเมริกาหรือไทย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเลือกไทยเพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมาก และใช้วัตถุดิบที่เป็นสารอินทรีย์ซึ่งไทยมีพร้อม โดยเราได้เชิญชวนให้ตั้งโรงงานในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ด้วย

นายสมคิดกล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีโครงการลงทุนที่ใหญ่มาก คือ บริษัทคูราเรย์ (Kuraray Co., Ltd.) ซึ่งร่วมทุนกับซูมิโตโม คอร์เปอเรชั่น (Sumitomo Corporation) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ทำโครงการผลิตปิโตรเคมีชนิดพิเศษ ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท บริษัทนี้ยังไม่เคยลงทุนที่อื่น แต่กำลังจะมาลงทุนในไทย มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เราจึงพยายามเร่งให้เขารีบสรุป เพราะในอีอีซีเรามีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีพื้นฐานที่จำเป็นมูลค่านับล้านล้านบาทอยู่แล้ว และพีทีทีจีซีก็เป็นพาร์ตเนอร์ที่จะป้อนวัตถุดิบให้ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนซูมิโตโมก็จะช่วยกระจายสินค้าไปยังตลาดทั่วโลก การตั้งโรงงานในไทยถือว่าอยู่ในที่ตั้งที่ดี

ส่วนโครงการที่สาม คือ ซูบารุ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งยังไม่เคยตั้งโรงงานในไทย แม้จะมีรถยนต์ยี่ห้อนี้จำหน่ายในไทยมานาน แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุนกับสิงคโปร์ตั้งโรงงานในมาเลเซีย จึงยังไม่มาตั้งโรงงานในไทย แต่ตอนนี้สนใจที่จะมาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์คุณภาพสูงในประเทศไทย เราจึงเชิญชวนให้เขารีบมาเพราะทุกค่ายมาอยู่ที่นี่แล้ว และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น เขามีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานด้วย เราจึงชักชวนให้เข้ามาอยู่ในอีอีซี ซึ่งเขาสนใจ และให้บีโอไอประสานงาน โดยโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีอยู่ถึง 90%

อีกบริษัทอยู่ระหว่างการคิดแต่ยังไม่ตัดสินใจ คือ Kyocera Corporation เป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และโซลาร์เซลล์ สนใจที่จะมาไทยแต่ยังไม่ได้ยื่นเข้ามา ซึ่งทุกโครงการที่มาคุยกันนับว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง เพียงแต่ว่าเราต้องเร่งให้เขารีบมา

นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนบริษัทฮิตาชิ ที่ทำระบบรางรถไฟ เข้ามาพบและหารือพร้อมกับนายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม เนื่องจากกลุ่มฮิตาชิสนใจที่จะลงทุนระบบรางในไทยด้วย

นายสมคิดกล่าวอีกว่า เจตนาการเดินทางมาครั้งนี้เรื่องแรกคือ มาเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีเพื่อร่วมประชุมนิกเกอิ ฟอรัม (Nikkei Forum) ครั้งที่ 23 ในวันที่ 6 มิ.ย. ซึ่งเป็นการมาปีที่ 2 โดยปีนี้มีหัวข้อน่าสนใจ คือ Globalism at a Croosroads Next Step of Asia เขาจัดงานนี้เพื่อพูดถึงว่าเรื่องอะไรที่เอเชียควรทำในอนาคตข้างหน้า เนื่องจากความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนเป็นคนพูดคนแรกในเวลาครึ่งชั่วโมง โดยจะพูดให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยสูงสุด ที่น่าสังเกตคือเวียดนามรุกหนักมาก งานนี้นายกรัฐมนตรีเขามาเองเป็นการมาเยือนอย่างเป็นทางการ และมีนายกฯ ฟิลิปปินส์ นายกฯ ลาวมาด้วย เวียดนามเขาพยายามเดินสายชักชวนลงทุน แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ากลุ่ม CLMV เติบโตภูมิภาคนี้จะยิ่งแข็งแรง ขณะที่อีอีซีของเราก็กำลังเติบโตมาก ในการมาครั้งนี้ได้กำชับบีโอไอให้ไปทุกจังหวัดของญี่ปุ่นที่มีโรงงานมาก เช่น คันไซ ฟูกูโอกะ โดยเฉพาะฟูกูโอกะนั้น นายกเทศมนตรีมาพบเราเอง และเป็นจังหวัดที่มีธุรกิจจำนวนมากสนใจอีอีซี

ด้านนางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า เอกชนญี่ปุ่นทั้ง 4 บริษัทที่เข้าพบรองนายกฯ วันนี้ มี 3 บริษัทที่ยังไม่เคยลงทุนในประเทศไทยเลย มีเพียง Kyocera Corporation ที่เคยลงทุนชิ้นส่วนเซรามิก แต่โครงการใหม่จะเข้ามาลงในอีอีซี คาดว่าทั้ง 4 โครงการจะมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท และจะยื่นขอรับการสนับสนุนจากบีโอไอเร็วๆ นี้ โดยซูบารุนั้นจะตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเราได้ชักชวนให้ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในอีอีซี ซึ่งจะรองรับการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินของอู่ตะเภาด้วย โดยทั้ง 4 บริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนในไทยอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อได้เข้าพบรองนายกรัฐมตรีก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น