กรมทรัพย์สินทางปัญญาลุยต่อเนื่อง ปราบพวกละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าผ่านโลกออนไลน์ จี้เจ้าของสิทธิ์เจอปุ๊บ แจ้งความปั๊บ พร้อมส่งหลักฐานให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อประสานสรรพากรตรวจภาษี และปปง. ยึดทรัพย์ ปิ๊งไอเดียขอความร่วมมือผู้ให้บริการบัตรเครดิต ขนส่ง ช่วยสอดส่องและแจ้งข้อมูล เพื่อตัดวงจรขายของปลอม
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าเร่งปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า ผ่านระบบออนไลน์ หรืออินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการประสานภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์เมื่อถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานภาครัฐจะได้สืบเสาะขยายวงกว้างและจับตัวการผู้กระทำผิดต้นทางอย่างแท้จริง จนส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลตามกระบวนการของกฎหมาย
“เมื่อแจ้งความ จับได้แล้ว ขอให้แจ้งกรมฯ ด้วย เพื่อที่กรมฯ จะได้ส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ เช่น กรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดินต่อไป”
นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนที่จะขอความร่วมมือผู้ให้บริการบัตรเครดิต ผู้ให้บริการผ่านช่องทางชำระเงิน และผู้ให้บริการขนส่งทางไปรษณีย์ ให้ข้อมูลและร่วมสอดส่องดูแลตัดวงจรการกระทำผิดของผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพราะธุรกรรมทางการเงินและโลจิสติกส์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในวงจรดังกล่าว
นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ขอความร่วมมือตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์และเจ้าของเครื่องหมายการค้าต่างๆ ที่ถูกปลอมแปลงหรือนำไปจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ช่วยกดรายงานกรณีพบการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไปยังเฟซบุ๊ก ซึ่งจะช่วยให้ทางสำนักงานเฟซบุ๊กจัดการพิจารณาปิดบัญชีที่ขายสินค้าปลอมได้เร็วขึ้น เพราะเฟซบุ๊กมีนโยบายไม่สนับสนุนให้จำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอยู่แล้ว
ส่วนแผนการป้องปรามการละเมิด กรมฯ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ได้จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งที่จำหน่ายและทำหนังสือแจ้งเตือนเจ้าของพื้นที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้กวดขันไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดในพื้นที่ หากมีการจำหน่ายให้พิจารณายกเลิกสัญญาเช่า โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) มีการประกาศไว้ในรายงานการประเมินตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง (notorious market report) ประจำปี 2559 เช่น มาบุญครอง และตลาดโรงเกลือ จะต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้กระทบต่อประเมินผลการจัดสถานะทรัพย์สินทางปัญญาของไทย
สำหรับสถิติการดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ของปี 2559 ได้ดำเนินคดีส่วนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไปแล้วทั้งสิ้น 6,121 คดี ของกลาง รวม 4,825,527 ชิ้น