“พาณิชย์” ลุยต่อ จัดการแม่ค้าไลฟ์สดขายของปลอม ประสานเฟซบุ๊กแบนบัญชี พร้อมจี้เจ้าของสิทธิช่วยรีพอร์ตรัวๆ

“กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ลุยปราบขายของปลอมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ประสานสำนักงานใหญ่เฟซบุ๊กที่สิงคโปร์ช่วยดูแล พร้อมหารือเจ้าของลิขสิทธิ์ช่วยรีพอร์ต เพื่อกดดันให้ปิดบัญชีที่ขายของปลอมได้เร็วขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เร่งสืบหาตัวคนขายของปลอมทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ก่อนประสานตำรวจจับ เผยล่าสุดจับแล้ว 3 ราย

นายทศพล ทังสุบุตร รักษาการอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ทำการประสานไปยังสำนักงานสาขาของเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่อยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อให้ช่วยดูแลกรณีมีการขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาผ่านบัญชีของเฟซบุ๊ก และขายผ่านวิดีโอถ่ายทอดสด (Facebook Live) โดยขอให้ช่วยปิดบัญชีที่ขายสินค้าละเมิด หากมีการกดรายงาน (Report) เข้าไปยังเฟซบุ๊ก เพราะเป็นการขายของที่ผิดกฎหมายและกระทบต่อการจำหน่ายสินค้าของจริง

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้ที่เป็นเจ้าของสินค้าและเจ้าของสิทธิในสินค้ายี่ห้อต่างๆ ที่มีการนำมาปลอมแปลงและนำไปจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊กไลฟ์ ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม ผ้าพันคอ เสื้อผ้า นาฬิกา และแว่นตา เป็นต้น เพื่อให้ช่วยกดรายงานไปยังเฟซบุ๊กว่าพบเจอบัญชีที่นำสินค้าปลอมของตนเองจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊กซึ่งจะช่วยกดดันให้เฟซบุ๊กเข้ามาจัดการกับบัญชีที่ขายสินค้าปลอมได้เร็วขึ้น

“เวลาคนส่งรีพอร์ตไปยังเฟซบุ๊ก ทางเฟซบุ๊กก็จะรับทราบว่าบัญชีนั้นบัญชีนี้มีการขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แต่หากไม่มากพอเฟซบุ๊กก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือเป็นเจ้าของสินค้าที่ถูกละเมิด แล้วทำการรีพอร์ตเข้าไปทางเฟซบุ๊กจะให้ความสำคัญและรีบดำเนินการให้ เพราะเฟซบุ๊กเองก็มีนโยบายไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาชัดเจนอยู่แล้ว” นายทศพลกล่าว

นายทศพลกล่าวว่า สำหรับการดำเนินการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าปลอมทางเฟซบุ๊ก หรือทางเว็บไซต์ต่างๆ ขณะนี้กรมฯ สามารถดำเนินการได้โดยใช้ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า และหากเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น หนัง เพลง ก็จะใช้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ โดยหากตรวจสอบพบก็จะแจ้งตำรวจดำเนินการจับกุม ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบเฟซบุ๊กและเว็บขายสินค้าปลอม โดยใช้วิธีการตรวจสอบไอพี สืบค้นที่อยู่ และสืบค้นจากบัญชีธนาคารที่ให้โอนเงิน โดยเมื่อรู้ตัวชัดเจนแล้วก็จะขอศาลออกหมายค้นและเข้าจับกุม

“ตอนนี้เรายังไปสั่งปิดเว็บที่ขายของปลอมไม่ได้ หรือปิดบัญชีเฟซบุ๊กไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีตรวจสอบ และหาตัวคนทำ คนขายของปลอมให้เจอแล้วเข้าไปจับกุม ล่าสุดได้มีการตรวจสอบจนเจอแม่ค้าที่ขายของปลอมบนเฟซบุ๊ก จากนั้นตำรวจได้นำหมายค้นและนำกำลังเข้าไปจับกุมแล้ว 3 ราย โดย 2 รายอยู่ที่กรุงเทพฯ และอีก 1 รายที่ชลบุรี และตอนนี้ก็ยังได้มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ถ้าเจอก็จะทำการจับกุมต่อไป” นายทศพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากต่อไป พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กำลังอยู่ระหว่างการผลักดันมีผลบังคับใช้ก็สามารถที่จะใช้ช่องทางผ่านกฎหมายฉบับนี้เพื่อขอให้ศาลสั่งปิดเว็บไซต์หรือบัญชีเฟซบุ๊กที่ขายสินค้าปลอมได้

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบเจอการขายสินค้าปลอมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และได้ก๊อบปี้หน้าเพจ และสั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเข้าไปจัดการ และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์เอง ก็ได้สั่งการให้รีบเข้าไปแก้ไขปัญหาด้วย

สำหรับการจำหน่ายสินค้าปลอมผ่านเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊กไลฟ์นั้น พ่อค้าแม่ค้าได้ใช้เป็นช่องทางใหม่ในการจำหน่ายสินค้า จากเดิมที่จะเปิดแผงขายตามห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด หรือร้านค้า แต่พอถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ก็หันมาใช้วิธีขายผ่านเฟซบุ๊กแทน และล่าสุดยังได้ใช้เฟซบุ๊กไลฟ์ขาย ทำให้คนซื้อสามารถเห็นสินค้าและสั่งซื้อได้ทันที โดยสินค้าที่นิยมนำมาขาย เช่น หลุยส์ วิตตอง ชาแนล ปราด้า ผ้าพันคอของหลุยส์ วิตตอง กุชชี เบอร์เบอรี แว่นตา ของกุชชี ปราด้า เป็นต้น โดยพ่อค้าแม่ค้าได้อ้างว่าเป็นสินค้าเกรดมิรเรอร์ คือ สินค้าทุกอย่างเหมือนของแท้ แต่ราคาถูกกว่า