เตือนภัยผู้บริโภค! “พาณิชย์” เดินหน้าจับ หลังพบบรรจุภัณฑ์จริงข้างในปลอมระบาดขายเกลื่อนตลาดนัด-ตะเข็บชายแดน

กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมลุยจับสินค้าบรรจุภัณฑ์แท้แต่ข้างในปลอม ป้องกันผู้บริโภคได้รับผลกระทบ หลังพบมีจำหน่ายเกลื่อนทั้งในตลาดนัด และแนวตะเข็บชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน พร้อมจี้ผู้ผลิตช่วยเป็นหูเป็นตาหลังกฎหมายบังคับใช้ยังไม่มีการดำเนินคดี เผยโทษหากจับได้ปรับ 4 แสน คุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายทศพล ทังสุบุตร รักษาการอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าปลอมที่มีการนำหีบห่อหรือภาชนะที่แสดงเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้มาใช้บรรจุสินค้าที่ทำเองเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของจริง โดยพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในลักษณะนี้ตามตลาดนัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และยังพบมากในตลาดที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่งต้องดำเนินการปราบปรามเพราะเป็นสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน

สำหรับสินค้าที่มีการตรวจสอบพบ เช่น สุราปลอม มีการนำเอาขวดของแท้ ทั้งแบล็กเลเบิล เรดเลเบิล แล้วเอาวิสกี้ราคาถูกมาใส่แทน แต่บางรายพบว่ามีการเอาแอลกอฮอล์มาผสม ซึ่งหากดื่มเข้าไปก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ไวน์ปลอมมีการปลอมฉลาก โดยใช้ไวน์ราคาถูกมาติดฉลากใหม่ หรือนำไวน์ยี่ห้อ Bin 2 มาติดฉลากใหม่เป็น Bin 389 ซึ่งมีราคาแพงกว่า น้ำมันเครื่อง เอาน้ำมันที่ใช้แล้วหรือน้ำมันปลอมมาใส่ แชมพู ยาสระผม มีการนำเอาบรรจุภัณฑ์ของแท้แล้วมาบรรจุใหม่ โดยใช้น้ำยาที่ทำขึ้นเองหรือผสมเองมาใส่ น้ำปลา ซีอิ๊ว เครื่องปรุงรส นำน้ำเกลือมาผสมสี แล้วมาบรรจุใส่ในขวดจริง เป็นต้น

“ขอให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าตามตลาดนัด หรือตลาดทั่วไปให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าสินค้าที่ขายในราคาถูกกว่าปกติมากๆ อาจจะไม่ใช่ของจริง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะขายถูกได้แบบนั้น และให้ดูด้วยว่าบรรจุภัณฑ์เก่าหรือใหม่ ถ้าเก่าก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ขอให้เลี่ยง และหากพบว่าเป็นสินค้าที่ขวดแท้ กล่องแท้ แต่ข้างในปลอม ให้รีบแจ้งมายังกรมฯ โดยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1368” นายทศพลกล่าว

นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่เจอปลอมในลักษณะนี้ ให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเป็นหูเป็นตา และให้แจ้งความดำเนินคดีทันทีที่พบเห็น เพราะตั้งแต่ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 ที่กรมฯ ได้ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มบทลงโทษสำหรับสินค้าปลอมที่นำหีบห่อแท้มาบรรจุ และได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 2559 ยังไม่มีการดำเนินคดีในกรณีนี้เกิดขึ้นเลย

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าเดิมไม่ได้มีโทษในการทำสินค้าปลอม แต่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อเป็นของจริง และได้ใช้กฎหมายอาญา มาตรา 272 และ 275 ในการจัดการ โดยมีโทษเบา คือปรับ 2 พันบาท จำคุก 1 ปี แต่กฎหมายใหม่ได้กำหนดความผิดและเพิ่มโทษให้รุนแรงขึ้น โดยมีโทษปรับ 4 แสนบาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อหรือใช้สินค้าปลอม