“คมนาคม” สั่งตั้งด่านชะลอความเร็ว สกัดขาซิ่ง! สาเหตุหลักอุบัติเหตุบนถนน

“อาคม” ปล่อยแถวบริการประชาชนของทางหลวงชนบท สั่งตั้งด่านชะลอความเร็วบนถนนสายหลัก คุมเข้มอุบัติเหตุช่วงเดินทางปีใหม่หลังพบสถิติสาเหตุอุบัติเหตุเกิดจากขับรถเร็ว แซงหน้า เมาแล้วขับ เผย 50 จุดเสี่ยงบนโครงข่ายทางหลวง ขณะที่กรมทางหลวงชนบทจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วตระเวนตรวจถนนสายรอง ป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซาก

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในกิจกรรมปล่อยขบวนรถรณรงค์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ว่าได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางซึ่งในช่วงเทศกาลนั้นมีการเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมากทำให้มีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงกว่าปกติ และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจในการเดินทางให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาล ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”

ทั้งนี้ ปัจจุบันสถิติการเกิดอุบัติเหตุพบว่า สาเหตุหลักมาจากขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทั้งแซง เมาแล้วขับที่เคยเป็นอันดับหนึ่งขึ้นมาแล้ว แสดงให้เห็นพฤติกรรมการขับขี่ที่เปลี่ยนไป รวมถึงสภาพรถ สภาพถนนลาดชัน ทางโค้งที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุหากใช้ความเร็วสูง จึงมอบหมายให้เพิ่มจุดตั้งด่านชะลอความเร็วรถ บนเส้นทางสายหลัก ซึ่งจากการสำรวจของกรมทางหลวง (ทล.) พบว่า มีประมาณ 50 จุดเสี่ยง ส่วนถนนของกรมทางหลวงชนบท ให้เพิ่มหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว ตระเวนตามถนนต่างๆ เพื่อคอยตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้

เพื่อเป็นการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล รวมทั้งได้ขอความร่วมมือให้ผู้รับจ้างหยุดดำเนินการก่อสร้าง ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 ถึง 4 มกราคม 2560 เพื่อคืนผิวจราจรให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากที่สุด พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องหมายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง และไฟสัญญาณเป็นระยะๆ อย่างชัดเจนทั่วประเทศ รวมถึงซ่อมแซมถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อให้มีสภาพพร้อมใช้งาน

ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมมีนโยบายสำคัญในการลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษความปลอดภัยทางถนน มีเป้าหมายลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่ 10 คนต่อประชากร 100,000 คน จากปัจจุบัน 36 คนต่อ100,000 คน โดยเฉพาะถนนสายรองและถนนในท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจจับความเร็วให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มนำเครื่องมือที่ตรวจจับความเร็วรถ และมีป้ายแต้งให้ผู้ใช้รถแต่ละคันทราบทันทีแล้ว เช่นที่ หนองคาย อุดรธานี เชียงใหม่ ขอนแก่น เป็นต้น ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วที่ ทางหลวงหมายเลข2 (ถนนมิตรภาพ) จากอุดรธานี-หนองคาย ระยะทางประมาณ 20 กม. โดยใช้เงินจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งสถิติการเกิดอุบัติเหตุในถนนดังกล่าวลดลง ซี่งในปี 2560 จะขยายเพิ่มไปยังเส้นทางอื่นที่รถใช้ความเร็วสูง

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า เป้าหมายในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดิรทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จะพยายามลดการเกิดอุบัติเหตุลง จึงเพิ่มมาตรการจากเดิมที่มีการตั้งเต้นท์อำนวยความสะดวก จะเพิ่มมาตรการเชิงรุกมโดยจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ในพื้นที่มีจุดเสี่ยง ออกตระเวนในช่วงที่ประชาชนเดินทางเข้าถึงพื้นที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ถนนสายรองของทช.เป็นหลัก

สำหรับการให้บริการและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่รับผิดชอบของกรมท่งหลวงชนบท ที่ได้ดำเนินการเตรียมพร้อมแล้ว ได้แก่ ตรวจสอบ แก้ไข ปรับปรุงถนน สะพาน, ปรับปรุงถนน/สะพาน บริเวณที่ก่อสร้างให้เปิดบริการชั่วคราวได้

ช่วงคุมเข้มการอำนวยความสะดวกด้านการตั้งจุดตรวจ และจุดให้บริการประชาชนบนสายทาง

-หยุดดำเนินการก่อสร้าง ซ่อมแซมถนนและสะพานในช่วงเทศกาล
-จัดตั้งศูนย์ประสานงานระดับสำนัก 18 ศูนย์
-จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางหลวงชนบทจังหวัด 76 ศูนย์
-จัดตั้งหน่วยบริการประชาชนทางหลวงชนบททั้ง 76 จังหวัด
-จัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว 76 ชุด
-จัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร เฝ้าระวังเส้นทางที่มีจุดตัดรถไฟและเส้นทางที่มีจุดเสี่ยง จุดอันตราย
-จัดตั้งศูนย์วิทยุสื่อสารแบบ VHF โดยใช้ความถี่ 167.400/172.075 MHz
-จัดตั้งสายด่วน 1146

การอำนวยความสะดวกและการประชาสัมพันธ์

-ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง จส.100 , สวพ. FM 91 , FM 99.5 สถานีวิทยุต่างจังหวัด
-ติดตั้งเครื่องหมายเตือน ป้ายแนะนำ ทางเลี่ยง
ช่วงหลังเทศกาล
-ติดตาม รายงาน ประเมินผลและวิเคราะห์ โดยเฉพาะในจุดที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไป
-จัดทำแผนงบประมาณ เพื่อนำเสนอของบประมาณในการปรับปรุงเส้นทางต่อไป

ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ร่วมส่งทุกท่านเดินทางกลับบ้านปลอดภัย ถึงบ้านอย่างมีความสุข ควรตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของท่าน และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ประมาท เมาไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งก่อนใช้รถ โดยสามารถติดต่อสอบถามเส้นทางเลี่ยงของกรมทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วน 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง