ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมทางหลวง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดในพื้นที่นครแหลมฉบัง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ ส่วนเส้นทางเลี่ยงศรีราชา-แหลมฉบัง มีข้อพิพาทกับที่ดินเอกชนรายหนึ่งและฟ้องร้องเรื่องรุกล้ำที่ดิน ทำให้โครงการชะงักไป
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นประธานประชุมปรึกษาหารือของคณะผู้บริหาร ที่ห้องประชุมเมืองใหม่ 1 เทศบาลนครแหลมฉบัง นำโดย นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมสมาชิกสภาเทศบาล และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่
โดยในวันนี้ ในที่ประชุมได้เชิญหมวดทางหลวงบางละมุง และแขวงทางหลวงชลบุรีที่ 2 กรมทางหลวง เพื่อสอบถามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานต่างระดับถนนสุขุมวิท แยกถนนเมืองใหม่เหนือ ฝั่งตรงข้ามการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง (โรงงานสยามมิชลิน) ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ได้นำเรื่องเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมาตรวจงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยผ่าน นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ ด้วยความแออัดของการจราจรบนถนนสุขุมวิท บริเวณนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และการท่าเรือแหลมฉบัง มีปริมาณมาก แต่มีจุดกลับรถเป็นคอขวดข้ามฝั่งเพียงแห่งเดียว คือ ใต้สะพานต่างระดับแยกท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้เกิดรถติดมากในชั่วโมงเร่งด่วน ในช่วงที่บุตรหลานไปโรงเรียน และพนักงานเข้าทำงานในการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และการท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งโครงการนี้คาดว่าใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท
ด้าน นายยุทธเดช พวงบู่ หัวหน้าหมวดทางหลวงบางละมุง กล่าวว่า ขณะนี้แขวงฯ ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ แต่เนื่องจากโครงการที่เสนอไปนั้นไปคาบเกี่ยวกับทางเชื่อมมอเตอร์เวย์ ชลบุรี-แหลมฉบัง มีระยะความห่าง 700 เมตร ในขณะที่ระยะความปลอดภัยของการกลับรถบรรทุกขนาดใหญ่ต้องมีถึง 800 เมตร จึงต้องพิจารณาในเรื่องรายละเอียดของการออกแบบ แต่หากปรับเปลี่ยนเป็นทางยกระดับข้ามถนนสุขุมวิท จากฝั่งเทศบาลฯ ข้ามไปฝั่งการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จะเป็นทางออกที่ดีกว่า แต่ต้องไปขอใช้พื้นที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง
คณะผู้บริหารของเทศบาลนครแหลมฉบัง เห็นว่า ขอเสนอดังกล่าวมีความเป็นไปได้ยาก เพราะจะต้องไปสร้างจุดกลับรถปลายสะพานรูปหยดน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งคาดว่าการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง คงไม่ยินยอม พร้อมได้นำเสนอเป็นจุดยูเทิร์นเกือกม้า แทน
ซึ่งเรื่องนี้ ทางหมวดทางหลวงบางละมุง เห็นด้วยในโครงการแรก คือ ยกระดับถนนสุขุมวิท กับยูเทิร์นเกือกม้า แต่อย่างไรก็ตาม จะนำโครงการดังกล่าวนำเสนอให้กรมทางหลวง พิจารณาต่อไป
นอกจากนั้น โครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองศรีราชา-แหลมฉบัง ขนานทางรถไฟสายตะวันออก ความยาว 11,300 เมตร ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ ถนนสุขุมวิท จากชลบุรี-ศรีราชา-บางละมุง มีความแออัด แต่ปัจจุบันมีถนนเลี่ยงเมืองหลายจุด เช่น ถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี ถนนเลี่ยงเมืองหนองมน แต่ยังไม่มีถนนเลี่ยงเมืองศรีราชา กับแหลมฉบัง
ทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยมีการเตรียมพื้นที่ และกันแนวเขตทางไว้แล้ว แต่ขาดงบประมาณในการดำเนินการ โดยเมืองศรีราชา และนครแหลมฉบัง เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศจำนวนมหาศาล
ดังนั้น ทางคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง จึงได้ทำหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณ ในโครงการนี้ 6,000 ล้านบาท รวมทั้งค่าเวนคืนที่ดินด้วย
นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบทบางละมุง แขวงการทางหลวงชนบทชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมแผนผลักดันในปีงบประมาณ 2561 เป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งได้แนบเรื่องแบบเดิมที่ทำการสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างไปก่อนหน้านี้ เพียงแต่ถนนเลี่ยงเมืองสายนี้ ในช่วงต่อมอเมอร์เตอร์เวย์ บ้านชากยายจีน ถึงบ้านทุ่งกราด มีข้อพิพาทกับที่ดินเอกชนรายหนึ่ง ฟ้องร้องเรื่องรุกล้ำที่ดิน คดีนี้ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว คดียังไม่สิ้นสุด จึงทำให้โครงการนี้ต้องชะงักไป
นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง กล่าวว่า ทางคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง ขอฝากทั้ง 2 หน่วยงาน คือ หมวดทางหลวงบางละมุง และหมวดบำรุงทางหลวงชนบทบางละมุง แขวงการทางหลวงชนบทชลบุรี ช่วยผลักดันให้โครงการดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรม เพราะขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการเดินทาง ซึ่งจะต้องเสียเวลา 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยล่าช้ามาก
