สนข.ดันแผนสร้างมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย ลดแออัดเร่งระบายสินค้าด่านสะเดา คาดใช้ “ไทยแลนด์อินฟราฟันด์” ลงทุน ด้าน ทล.เผยออกแบบเสร็จแล้ววงเงินลงทุน 3.54 หมื่นล้าน เวนคืนที่ดินเกือบ 5 ไร่เพื่อเปิดพื้นที่แนวถนนใหม่ จัดงบปี 60 วงเงิน 25 ล้านจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์รูปแบบ PPP ศึกษาใน 15 เดือน
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า การขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวระหว่างไทย มาเลเซีย ผ่านด่านสะเดาและปาดังเบซาร์มีการเติบโตสูง ในขณะที่การขนส่งทางรางยังมีอุปสรรคในเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศ จึงมีการใช้รถบรรทุกขนส่งจำนวนมาก รวมถึงมีสินค้าผ่านแดนไปยังสิงคโปร์อีกด้วย จึงเกิดความแออัด ประกอบกับขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรที่ต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงมีการศึกษาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกในการขนส่ง รวมถึงรองรับการเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ทำการออกแบบโครงการมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซียแล้ว โดยกระทรวงการคลังให้พิจารณารูปแบบการลงทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์อินฟราฟันด์) เนื่องจากเป็นโครงการที่มีรายได้จากค่าผ่านทางจูงใจเอกชนเข้ามาลงทุน
ด้านนางพาริสา จั่นนุ้ย วิศวกรโยธา ชำนาญการพิเศษ กรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า กรมทางหลวงได้ออกแบบรายละเอียดโครงการมอเตอร์เวย์ สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย แล้วเสร็จเมื่อเดือน เม.ย. 2559 และได้ส่งรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยอยู่ระหว่างปรับแก้ไขรายงานให้มีข้อมูลตรงตามรูปแบบบของงานออกแบบรายละเอียดตามข้อคิดเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม (คชก.) คาดว่าจะได้รับอนุมัติในปี 2559
ทั้งนี้ กรมฯ ได้รับจัดสรรงบปี 2560 วงเงิน 25 ล้านบาทในการว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาแนวทางการให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุนและบริหารจัดการทางหลวง (PPP) ระยะเวลาศึกษา 15 เดือน โดยมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย มูลค่าโครงการ 35,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 31,828 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,572 ล้านบาท พื้นที่เวนคืน 4,976 ไร่ โดยแนวเส้นทางจะเปิดพื้นที่ใหม่เนื่องจากแนวเส้นทางเดิมทางหลวงหมายเลข 4 พื้นที่เขตทางไม่เพียงพอที่จะขยาย
ตามผลการศึกษาพบว่ามีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (IRR) 15.78% ผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ประมาณ 7.22% โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี หรือ 720 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 ปริมาณจราจรจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 คันต่อวันและในปี 2592 เพิ่มเป็น 70,000 คันต่อวัน จัดเก็บค่าผ่านทางเป็นระบบปิด คิดตามระยะทาง เริ่มต้น 30 บาท กม.ต่อไป กม.ละ 1 บาท สูงสุด 60 บาท
โดยแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-สะเดา ระยะทางรวม 62.59 กม. แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 มีจุดเริ่มต้นจากทางหลวงหมายเลข 4 บริเวณห่างจาก อ.บางกล่ำ 1.5 กม. แนวมุ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมฉลุง จากนั้นมุ่งไปทิศใต้ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 4287 (รัตภูมิ-หาดใหญ่) ตัดผ่านทางหลวงชนบท สข.4045 จากนั้นตัดทางหลวงชนบท สข.4034 (กม.26+000) ที่บ้านทุ่งเลียบ ต.คลองหอยโข่ง ระยะทาง 26 กม. และเส้นทางเชื่อมสายสนามบินหาดใหญ่อีก 6 กิโลเมตร
ตอนที่ 2 เริ่มจาก กม.26+000 บริเวณบ้านทุ่งเลียบ สิ้นสุดที่ กม.62+596
บริเวณด่านสะเดาแห่งใหม่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา ระยะทาง 36.59 กม. มีทางแยกต่างระดับ 4 แห่ง รูปแบบถนน 4 ช่องจราจร และมีทางคู่ขนาน 2 ช่องจราจร การออกแบบจะมีช่องเปิดทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้แนวเส้นทางกีดขวางทางน้ำ ทางลอดสำหรับพื้นที่ชุมชน รวมถึงทางยกระดับในแยกใหญ่ช่วงจุดเริ่มต้นโครงการและทางเชื่อมถนนสายสนามบินหาดใหญ่
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าชายแดนของประเทศปี 2558 มีมูลค่ารวมประมาณ 1 ล้านล้านบาท สำหรับด่านสะเดามีมูลค่าการค้าสูงที่สุดของประเทศ ประมาณ 317,000 ล้านบาท ส่วนด่านปาดังเบซาร์มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท รวม 2 ด่านแล้วมีสัดส่วนถึง 48.52% ของมูลค่ารวมประเทศ โดยต่อเดือนที่ด่านสะเดามีรถบรรทุกผ่าน 3 หมื่นคันรถโดยสาร 4 หมื่นคัน นักท่องเที่ยว 4.6 หมื่นคน กรมศุลกากรอยู่ระหว่างก่อสร้างด่านสะเดาใหม่ พื้นที่ 596 ไร่ งบประมาณ 2,290,483,317 บาท แล้วเสร็จ พ.ค. 2562 โดยจะแยกรถสินค้าและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าหาดใหญ่ไปใช้บริการที่ด่านใหม่