xs
xsm
sm
md
lg

“อาคม” ดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนุน EEC เชื่อมืออาชีพ “พิชิต” ฟื้นฟูรถไฟ-ขสมก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อาคม” มอบ “พิชิต อัคราทิตย์” รมช.คมนาคมคนใหม่ เป็นคีย์แมนด้านโปรเจกต์ไฟแนนซ์ ขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาที่ดินรถไฟสร้างรายได้เพิ่มเพื่อพลิกฟื้นองค์กรให้ยั่งยืน และแบ่งงานให้กำกับการท่าเรือฯ เพิ่มอีกด้วย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการมอบหมายหน่วยงานในกระทรวงคมนาคมให้กับ นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่แล้ว ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมเจ้าท่า (จท.) ส่วนรัฐวิสาหกิจมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งเป็นงานเดิมของนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ อดีต รมช.คมนาคม แต่ได้เพิ่มเติมให้กำกับดูแลการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เพิ่มอีก 1 รัฐวิสาหกิจ เพื่อให้งานครอบคลุมทั้งทางบกและทางน้ำ

ทั้งนี้ งานของการท่าเรือฯ มีความสำคัญ ทั้งแผนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 การพัฒนาขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังเดิม และท่าเรือชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งมีการเสนอแนวทางการพัฒนาในรูปแบบคลัสเตอร์ คือไม่ใช่เฉพาะท่าเรือของการท่าเรือฯ อย่างเดียว แต่จะรวมท่าเรืออื่นๆ ด้วย ขณะที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นั้นจะต้องช่วยกันทั้งหมด เนื่องจากการสนับสนุน EEC จะต้องมีระบบขนส่งทุกโหมด ทั้งรถไฟความเร็วสูง ถนน สนามบิน และท่าเรือ

นายอาคมกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ รมช.คมนาคมช่วยดูเรื่องโปรเจกต์ไฟแนนซ์ แหล่งเงินของโครงการต่างๆ ด้วย ซึ่งขณะนี้ในส่วนของการระดมทุนกองทุน “ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์” หรือ TFF นั้น จากการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังที่จะเริ่มที่โครงการทางด่วน สายพระราม 3-ดาวคะนอง ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ภายในปี 2560 จะสามารถดำเนินการได้

ในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ปี 60 จำนวน 36 โครงการ จะมีระบบรางประมาณ 85% ซึ่ง รมช.พิชิตเคยเป็นประธานบอร์ดการรถไฟฯ มาก่อนจะช่วยได้มาก ซึ่งในปี2560 รถไฟทางคู่จะต้องผลักดันให้ครบอีก 9 โครงการ เพราะรถไฟทางคู่มีความสำคัญต่อระบบลอจิสติกส์ของประเทศ รวมถึงแผนฟื้นฟูการรถไฟฯ และพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ดินรถไฟ เพื่อทำให้หน่วยงานมีรายได้เพิ่มขึ้น และการพึ่งพางบประมาณภาครัฐ

“แผนฟื้นฟูรถไฟและ ขสมก.จะต้องเดินหน้า ซึ่ง รมช.คมนาคมจะช่วยตรงนี้ ซึ่งรถเมล์นั้นจะมีการปรับปรุงคุณภาพ เช่นมีรถใหม่ 489 คัน และมีการปรับปรุงรถเก่ารวมถึงรถเมล์ไฟฟ้าที่จะมีการจัดหาเพิ่ม ซึ่งจะช่วยลดวงเงินลงทุนเพื่อจัดหารถเมล์ใหม่อย่างเดียวจำนวน 3,183 คัน ใช้เงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ลงได้มาก นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการระบบชัตเติลบัสที่สามารถสร้างรายได้ และอนาคตจะมีการนำระบบ GPS และ E-ticket มาปรับปรุงให้บริการดีขึ้น ส่วนกรณีรถเมล์ NGV ซึ่ง ขสมก.อยู่ในความรับผิดชอบของ รมช.คมนาคม จะให้ ขสมก.มารายงานสถานภาพโครงการเป็นอย่างไรหลักนั้นย้ำให้ดูเรื่องข้อกฎหมาย ข้อสัญญาจะต้องถูกต้อง” นายอาคมกล่าว

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงนั้น จะต้องดูเรื่องการพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างประโยชน์ให้มากที่สุด เพราะเมื่อมีระบบรางเข้าไปในพื้นที่จะเกิดความเจริญและจะช่วยสร้างมูลค่าของพื้นที่ด้วย ซึ่งจะทำให้โครงการระบบรางมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น สามารถทำให้ตัวเมืองขยายได้มากขึ้น และทำให้การลงทุนทั้งระบบมีความเป็นไปได้ และอยู่ได้โดยยั่งยืน

การรถไฟฯ มีเรื่องที่ดินที่ต้องดูแลในการสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้เพิ่ม เพื่อให้การรถไฟฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ขาดทุน

นอกจากนี้จะพัฒนาระบบเพื่อสนับสนุน EEC เนื่องจากถือว่าเป็นโครงการที่มีผลต่อยุทธศาสตร์ของประเทศในการสร้างประเทศไปสู่อีกจุดหนึ่ง จากเดิมที่ไทยเน้นเรื่องการขายแรงงานราคาถูก จะเปลี่ยนไปขายสิ่งที่มีมูลค่าสูงขึ้น ด้านลอจิสติกส์ หรือ Connectivity
กำลังโหลดความคิดเห็น