xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เร่งหารถเมล์ไฟฟ้าวิ่งใน 1 พ.ย.นี้ ขสมก.ปรับแผนซื้อนำร่องก่อน 20 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ขสมก.เร่งแผนซื้อรถเมล์ไฟฟ้าแยกนำร่อง 20 คัน ก่อน “ออมสิน” เผย “นายกฯ” ต้องการให้วิ่งบริการตั้งแต่ 1 พ.ย. 59 ซึ่งไม่แน่ใจจะใช้วิธีพิเศษหรือไม่ ระบุราคานำเข้าทั้งคัน 10-15 ล้านบาทอยู่ที่จะยกเว้นภาษีหรือไม่ ขณะที่ ก.ค.นี้ชง ครม.รื้อแผนซื้อรถ NGV 3,183 คันได้ ด้าน “ฮีโน่” ขนรถเมล์ไฮบริดให้ ขสมก.ทดลองวิ่ง 10 สายใน 5 เดือน ยันลดค่าใช้จ่ายได้ 37% ราคาซื้อคันละ 8 ล้านบาท

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหารถเมล์ใหม่ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ขณะนี้ ขสมก.ได้ทำการปรับปรุงแผนเสนอมายังกระทรวงแล้ว คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อย่างช้าต้นเดือน ก.ค.นี้ โดยจะเสนอ ครม.เพื่อขอยกเลิกการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงจำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทเดิม โดยปรับใหม่เป็น 3 ส่วน คือ 1. ปรับปรุงซ่อมแซมรถเก่า (overhaul) จำนวน 672 คัน 2. การจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,738 ล้านบาทโดยใช้เงินกู้ ค่าซ่อมบำรุงปีที่ 1-5 ประมาณ 826.305,231.75 บาท และปีที่ 6-10 วงเงิน 1,459,855,587.75 บาท 3. การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 200 คัน โดยกรอบวงเงินรวมปรับลงเหลือประมาณ 4,300 ล้านบาท ซึ่งจะประหยัดงบประมาณจากเดิมได้ถึง 8,000 ล้านบาท เพราะเหลือค่าจัดหากว่า 4,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น

ทั้งนี้ เนื่องจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการว่าต้องการให้เร่งจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการประชาชนภายในวันที่ 1 พ.ย. 2559 ดังนั้นจะต้องหารือกับ ขสมก.ถึงแผนการจัดหา ระยะเวลา เพื่อสรุปวิธีการจัดหาเพื่อให้ทันกับข้อสั่งการนายกฯ ซึ่งคงไม่สามารถจัดหาได้ในคราวเดียว 200 คัน และยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้วิธีพิเศษหรือไม่ ต้องพิจารณารายละเอียดก่อน โดยอาจจะพิจารณาเร่งจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าก่อน 20 คัน ส่วนอีก 180 คันค่อยดำเนินการภายหลังตามขั้นตอน หรือจะซื้อนำร่องต่างหาก 20 คัน แยกจาก 200 คัน

“ขณะนี้ราคารถเมล์ไฟฟ้านำเข้าทั้งคันกรณีเสียภาษีอยู่ที่ 13-15 ล้านบาท หากไม่รวมภาษีอยู่ที่ 10 ล้านบาท ซึ่งหากต้องการเร่งด่วนก่อน 20 คันอาจต้องนำเข้าทั้งคัน แต่ส่วนที่เหลือมีเวลา จะกำหนดตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุด ดังนั้นจะต้องนำเข้าแชสซีส์ เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ มาประกอบในประเทศซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้การผลิตแบตเตอรี่อาจจะสามารถผลิตในประเทศได้และราคาจะถูกลง โดยจะเร่งสรุปเพื่อเสนอ ครม.ในคราวเดียว”

โดยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ได้เยี่ยมชมรถโดยสารปรับอากาศระบบดีเซล และไฟฟ้า (Hybrid) ของบริษัท ฮีโน่มอเตอร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งให้การสนับสนุน ขสมก. นำมาวิ่งเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน และสมรรถนะของรถ รวม 10 เส้นทาง เส้นทางละ 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-15 พ.ย. 59 รวม 5 เดือน โดยจะเริ่มที่สาย 137 ก่อน จากนั้นจะเป็นสาย 77, A1, A2, 510, 522, 140, 138, 511, 145 ตามลำดับ ซึ่งทางฮีโน่ระบุว่ารถไฮบริดประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ารถดีเซลประมาณ 37% ซึ่ง ขสมก.จะต้องทดลองเก็บสถิติอีกว่าตรงกันหรือไม่ โดยต้นทุนรถเมล์ไฮบริด 8 ล้านบาทต่อคันเพราะต้องนำเข้าทั้งคัน แต่หากจะจัดหาจริงจะต้องนำเข้าแชสซีส์แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และต่อตัวถังในประเทศ ซึ่งราคาน่าจะลดลง หากอยู่ประมาณ 5-6 ล้านบาทต่อคันจะน่าพอใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น