นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ขสมก.จะประกาศขายซองประกวดราคา โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันอีกครั้ง หลังมีการเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นฝ่ายต่าง ๆ ครบ 3 ครั้ง ซึ่งขณะนี้โครงการมีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการได้ โดยโครงการดังกล่าว เคยประกวดราคามาแล้ว 1 ครั้ง ในปี 2558 แต่ต้องยกเลิกผลการประกวดราคาไป เนื่องจากมีการร้องคัดค้านการประมูล
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้เชื่อว่า การประกวดราคา จะสามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากการจัดทำร่างเงื่อนไขประกวด หรือ ทีโออาร์ ได้ปิดจุดอ่อนที่เคยมีข้อร้องเรียนไว้หมดแล้ว โดยขสมก.ตั้งเป้าหมายว่า โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จะสามารถประกวดราคาแล้ว และเริ่มทยอยรับมอบรถในปีนี้
ทั้งนี้โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี เป็น 1 ใน 3 โครงการที่ขสมก.จะดำเนินการปรับปรุงรถเมล์ ที่จะรวมกับโครงการซ่อมปรับปรุงรถเก่ากลับมาให้บริการ จำนวน 672 คัน การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินลงทุน 4,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ ขสมก.จะเดินหน้าตามแผน ฟื้นฟูกิจการ ที่วางไว้ 7 ข้อ นอกจากการจัดหารรถเมล์ใหม่ จะมีการนำเทคโนโลยี่ GPS ระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ หรือ อี-ติกเก็ทส์ มาใช้ การให้กระทรวงการคลังเข้ามารับภาระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย ที่มีในอดีต จากการให้บริการเชิงสังคม การลดพนักงานลง 3,000 คน จากปัจจุบัน 12,000 คน และการลดภาระค่าเช่าอู่จากเอกชน และพัฒนาหารายได้เชิงพาณิชย์จากอู่รถเมล์ ขสมก. เริ่มต้นอย่างน้อย 2 อู่ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้เชื่อว่า การประกวดราคา จะสามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากการจัดทำร่างเงื่อนไขประกวด หรือ ทีโออาร์ ได้ปิดจุดอ่อนที่เคยมีข้อร้องเรียนไว้หมดแล้ว โดยขสมก.ตั้งเป้าหมายว่า โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จะสามารถประกวดราคาแล้ว และเริ่มทยอยรับมอบรถในปีนี้
ทั้งนี้โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี เป็น 1 ใน 3 โครงการที่ขสมก.จะดำเนินการปรับปรุงรถเมล์ ที่จะรวมกับโครงการซ่อมปรับปรุงรถเก่ากลับมาให้บริการ จำนวน 672 คัน การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินลงทุน 4,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ ขสมก.จะเดินหน้าตามแผน ฟื้นฟูกิจการ ที่วางไว้ 7 ข้อ นอกจากการจัดหารรถเมล์ใหม่ จะมีการนำเทคโนโลยี่ GPS ระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ หรือ อี-ติกเก็ทส์ มาใช้ การให้กระทรวงการคลังเข้ามารับภาระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย ที่มีในอดีต จากการให้บริการเชิงสังคม การลดพนักงานลง 3,000 คน จากปัจจุบัน 12,000 คน และการลดภาระค่าเช่าอู่จากเอกชน และพัฒนาหารายได้เชิงพาณิชย์จากอู่รถเมล์ ขสมก. เริ่มต้นอย่างน้อย 2 อู่ในปีนี้
