ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯเผยงบลงทุนปี 60 ต่ำกว่าปีนี้ที่วางไว้ 1หมื่นล้านบาท หลังโรงไฟฟ้าหงสาแล้วเสร็จ แย้มสนใจลงทุนธุรกิจLNG จีบกฟผ.ร่วมแจมลงทุนคลังFSRU รวมทั้งแตกไลน์ทำธุรกิจน้ำประปา-รถไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยง
นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทจะวางงบลงทุนต่ำกว่าปีนี้ที่1 หมื่นล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาที่สปป.ลาวเดินเครื่องแล้ว คงเหลือแต่โครงการเซเปียน-เซน้ำน้อยที่สปป.ลาวขนาด 410 เมกะวัตต์ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการคาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เข้าไทย 370เมกะวัตต์ในปี 2561 เช่นเดียวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเมาท์ เอ็มเมอรัล ขนาด 180 เมกะวัตต์ ที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561เช่นกัน ทำให้ปีหน้า จะไม่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมเข้ามา เว้นแต่การลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตแล้ว โดยปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 6.4-6.5 พันเมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 1 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2566 เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
นายรัมย์ กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าแล้ว บริษัทมองโอกาสที่จะลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจต้นน้ำพลังงาน คือเชื้อเพลิง บริษัทฯสนใจลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมา รัฐสนับสนุนให้เอกชนจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีนอกเหนือจากปตท. และล่าสุดได้เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างคลังนำเข้าแบบลอยน้ำ หรือ FSRU ขนาด 3-5 ล้านตันต่อปี โดยบริษัทฯจะหารือกับกฟผ.ว่าจะเปิดโอกาสให้บริษัทฯเข้าไปมีส่วนร่วมได้หรือไม่ อย่างไร ส่วนการสร้างคลังนำเข้าแบบลอยน้ำที่เมียนมาขนาด 3 ล้านตันนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทเอกชนที่ได้สัมปทานธุรกิจน้ำประปาในสปป.ลาว เพื่อร่วมทุนในธุรกิจดังกล่าวหลังจากมีแผนขยายธุรกิจน้ำประปาในส่วนลาวตอนเหนือและลาวตอนใต้ เป็นผลสืบเนื่องจากรัฐบาลลาวอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ คาดว่าจะลงนามสัญญาร่วมทุนได้ภายในครึ่งแรกปี 2560
รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นรายละเอียดผลการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซกอง 4 ขนาด 400เมกะวัตต์ ที่สปป.ลาว โดยโครงการนี้ราชบุรีฯถือหุ้นอยู่ 60% หลังจากรัฐบาลลาวอนุมัติ ก็จะทำเรื่องเสนอขายไฟให้กับไทยเพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าเซกอง 5 นั้น คงต้องพับแผนหลังจากรัฐบาลลาวต่ออายุสัญญาพัฒนาโครงการให้กับผู้ที่ได้รับสัมปทานเดิมไปแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังร่วมทุนกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)เข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้สายสีชมพูและสีเหลือง โดยล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้รับสัมปทานออกแบบ และก่อสร้างงานโยธา การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง รวมมูลค่าทั้งหมดเกือบ 1แสนล้านบาท