ออสซีถกคุมจำนวน “จระเข้น้ำเค็ม” หลังมีข่าวโจมตีมนุษย์หลายครั้ง

เอเอฟพี - จำนวนจระเข้น้ำเค็มเพิ่มขึ้นอย่างมากในตอนเหนือของออสเตรเลีย นับตั้งแต่ถูกประกาศให้เป็นสายพันธุ์อนุรักษ์ และการโจมตีของพวกมันหลายครั้งเมื่อไม่นานมานี้ก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับการควบคุมจำนวนของพวกมัน

นักล่าขนาดยักษ์เหล่านี้ซึ่งเติบโตจนยาวได้มากสุดถึง 7 เมตร และหนักได้มากกว่าหนึ่งตันอาศัยอยู่ตามเส้นทางน้ำในตอนเหนือของประเทศนี้โดยรัฐบาลประเมินจำนวนของพวกมันทั่วประเทศอยู่ที่ราว 100,000 ตัว

พวกมันสังหารคนเฉลี่ยเพียง 2 คนต่อปีเท่านั้น แต่การโจมตีที่เป็นข่าวหลายครั้งรวมถึงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผู้หญิงคนหนึ่งถูกกระชากขณะลงว่ายน้ำในตอนกลางคืนนอกชายหาดในรัฐควีนส์แลนด์ได้ก่อให้เกิดเสียงเรียกร้องให้ลดจำนวนพวกมัน

เมื่อช่วงก่อนหน้าในปีนี้ นักการเมืองฝีปากกล้าชาวออสเตรเลีย บ๊อบ แคตเตอร์ เรียกร้องให้มีการจัดท่องเที่ยวล่าจระเข้เพื่อช่วยควบคุมจำนวนของพวกมันในป่า

“ธรรมชาติมีความสมดุลและความสมดุลอยู่ในสภาพที่เลวร้าย เราสามารถคืนสมดุลกลับสู่ธรรมชาติหากเรามีการท่องเที่ยวเพื่อล่าสัตว์” เขากล่าว

นับตั้งแต่กลายเป็นสายพันธุ์อนุรักษ์ในช่วงทศวรรษ 1970 หลังจากประชากรพวกมันถูกทำลายจากการล่า จำนวนจระเข้ได้เพิ่มขึ้นและมีชื่อเสียงจนกลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องได้เห็น

ธุรกิจบางรายถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการห้อยเนื้อเพื่อล่อให้มันกระโดดขึ้นมาต่อหน้าผู้เที่ยวชมบนเรือท่องเที่ยว แต่ผู้ประกอบการปฏิเสธว่าการล่อจระเข้ด้วยเนื้อไม่มีความเกี่ยวโยงที่พิสูจน์ได้กับการที่พวกมันโจมตีมนุษย์

“มีพวกมันบางตัวที่เรียนรู้เสียงเรือของพวกเราและพวกมันคือตัวที่ว่ายออกมาเพื่อหาอาหาร” ชาลี โอ-ไบรอัน ผู้จัดการของบริษัท Spectacular Jumping Crocodile Cruise ในแม่น้ำแอดิเลดในเขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี กล่าว

ในขณะที่ประเทศนี้กำลังอภิปรายเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือ เพื่ออยู่อย่างปลอดภัยในประเทศจระเข้แห่งนี้ โปรดพึงสังเกตป้ายเตือนอยู่เสมอ

“ไม่มีจระเข้น้ำเค็มตัวไหนที่เป็นมิตร พวกมันจะฆ่าคุณอย่างแน่นอน” รอยเบ็น โจนส์ ไกด์นำเที่ยวท้องถิ่น เตือน