ยูพีเอสรุกตลาดขนส่งพัสดุพื้นที่ 4 จว.ภาคตะวันออก “ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี และระยอง” เตรียมขยายบริการเพิ่มในช่วงไตรมาสแรกปี 2560 โดยเฉพาะบริการกับอุตฯ ไฮเทคแบบครบวงจร ยืดหยุ่น รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย เผยทุ่มงบลงทุนปีละ 1 พันล้านดอลลาร์ในด้านเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่ความเป็น “Smart Logistics” ให้บริการด้วยโซลูชันที่ครบวงจร เหนือกว่าการขนส่งสินค้าทั่วไป
นายบุนเทียม ตัน กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า ยูพีเอสเตรียมขยายขอบข่ายบริการในประเทศไทยเพิ่มขึ้นใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี และระยอง ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภูมิภาคชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย ซึ่งถือว่ามีภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยที่มีความโดดเด่นมายาวนานทั้งในด้านคุณภาพที่ดีและความแม่นยำในการผลิต เมื่อรวมกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ยูพีเอสจึงเห็นว่าจะมีการลงทุนใหม่ๆ หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องยังพื้นที่ภูมิภาคชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฮเทคของไทยมีสัดส่วน 30% ของภาคการส่งออก จึงเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ยูพีเอสเล็งเห็นความสำคัญ และจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความรู้ในด้านซัปพลายเชนสำหรับธุรกิจไฮเทคเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ พร้อมมีการประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคของยูพีเอสในสิงคโปร์เพื่อให้คำแนะนำอย่างครบวงจรแก่ลูกค้าอีกด้วย
และเพื่อให้ทันกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ธุรกิจในทุกภาคอุตสาหกรรม เช่น ภาคการผลิต ยานยนต์ และไฮเทค ต่างต้องสร้างจุดสมดุลระหว่างการผลิตให้ทันต่อเวลาที่ต้องการ (just-in-time productions) และการมอบบริการที่มีคุณภาพตามที่ได้มีการตกลงกันไว้เพื่อให้เป็นคู่ค้าที่อยู่ในใจลูกค้าเสมอ ด้วยการขยายเวลาตัดรอบส่งพัสดุประจำวันให้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน ลูกค้าของยูพีเอสในชลบุรี ปราจีนบุรี และระยองจะสามารถขยายช่วงเวลาในการผลิตได้มากขึ้น สามารถจัดการคำสั่งสินค้าได้มากขึ้น และส่งสินค้าถึงลูกค้าปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยการขยายบริการของยูพีเอสครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจต่างๆ ในภูมิภาคชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เช่น ดำเนินการได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้นจากการขยายเวลารับพัสดุในชลบุรี ปราจีนบุรี และระยอง (สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง), สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งพัสดุได้ดียิ่งขึ้นด้วยโซลูชันติดตามสถานะการขนส่งพัสดุที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของยูพีเอส, สามารถดำเนินการให้สอดคล้องกับระเบียบพิธีทางศุลกากรด้วยโซลูชันบริการตัวแทนผู้จัดส่งสินค้าของยูพีเอส, สามารถจัดการการนำเข้าและส่งออกได้อย่างแม่นยำด้วยการจัดส่งพัสดุแบบระบุเวลาถึงที่หมายและบริการเฟรท เครือข่ายที่ครอบคลุมกว้างขวางของยูพีเอสในสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังสามารถส่งเสริมให้ธุรกิจไทยแสวงหาโอกาสทางการค้าข้ามพรมแดนใหม่ๆ สู่ภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากในเอเชีย ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจยุคใหม่โดยอาศัยโซลูชันครบวงจรของยูพีเอสเพื่อพัฒนาระบบซัปพลายเชนที่คล่องตัว สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และมอบคุณค่าที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า
โดยยูพีเอสมีการจัดสรรเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในด้านเทคโนโลยีทุกปี เพื่อก้าวสู่ความเป็น “Smart Logistics” ให้บริการด้วยโซลูชันที่ครบวงจร เหนือกว่าการขนส่งสินค้าทั่วๆ ไป ซึ่งการขยายบริการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของยูพีเอสในการส่งเสริมความเติบโตให้กับธุรกิจในเอเชียในระดับภูมิภาคและระดับโลก ในปีนี้ยูพีเอสได้ยกระดับบริการขนส่งข้ามพรมแดนให้รวดเร็วยิ่งขึ้นสูงสุดถึง 2 วันในยุโรป 19 ประเทศ ขยายบริการ UPS Worldwide Express Plus™ สู่ 117 ประเทศและเขตการปกครอง และขยายเครือข่ายการผลิตสินค้าตามสั่งด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติสู่เอเชีย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยสามารถช่วยให้ลูกค้าลดปริมาณวัสดุคงคลังสำหรับชิ้นส่วนที่มีการหมุนเวียนช้า สินค้าที่มีความต้องการในตลาดไม่สูง หรือสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้ในต้นทุนและเวลาที่น้อยลง
ซึ่งในไตรมาส 3 ปี 2559 ผลกำไรของยูพีเอสจากธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 14% เป็น 576 ล้านดอลลาร์ นับเป็นอัตราการเติบโตระดับสองหลักติดต่อกัน 7 ไตรมาสแล้ว และมีรายได้รวมทั้งหมด 14.9 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 4.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว