ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น มั่นใจธุรกิจครึ่งปีหลัง 59 สดใส ธุรกิจหลักเติบโตโดดเด่น และบุ๊กรายได้การขายสินทรัพย์ พร้อมส่งบริษัทลูก WHA UP ยื่นไฟลิ่งเตรียมขายหุ้น IPO คาดเข้าซื้อขายต้นปีหน้า ส่วนแผนลงทุนนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนามหมื่นไร่ เดินหน้าให้บริการลูกค้าได้ปี 60 กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจต่อเนื่อง ยันปีนี้รายได้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาทและอีก 5 ปีข้างหน้ามีรายได้แตะ 2.1 หมื่นล้านบาท
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยถึงโครงสร้างรายได้ของ WHA ในอีก 5 ปี (2559-2563) ข้างหน้าคาดว่าจะมีรายได้ 2.1 หมื่นล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจที่ลงทุน โดยโครงสร้างรายได้ปัจจุบันมาจากลอจิสติกส์ 47% นิคมอุตสาหกรรม 31%สาธารณูปโภคและไฟฟ้า 18% และดิจิตอล 18%
ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.31 หมื่นล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้า คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทรับรู้รายได้ และกำไรภายหลังจะนำทรัพย์สินเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้น คาดเดือน พ.ย.นี้จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (HREIT) มูลค่ารวมไม่เกิน 8.02 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเตรียมยื่นไฟลิ่งเพื่อนำบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ผู้ดำเนินธุรกิจในการให้บริการระบบสาธารณูปโภคให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชฯ รวมทั้งดำเนินธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิต และจำหน่ายไฟฟ้า เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 229.50 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงไตรมาส 1/60 ภายหลังได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัทคาดภายในไตรมาสแรกปี 60 จะชำระหนี้เงินกู้จากการซื้อเหมราชฯ หมดลงได้ จะช่วยให้หนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1.3 เท่า จากสิ้นปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ 1.89 เท่า โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินเสนอขายไอพีโอ WHAUP และการเสนอขายทรัพยสินเข้ากองทรัสต์ HREIT-WHART ซึ่งตามแผนจะนำเงินระดมทุนส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ และขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสหกรรม และการลงทุนต่างประเทศ WHA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ประมาณ 1,100 ไร่ ทั้งนี้ บริษัทมียอดขาย 9 เดือนแรกอยู่ที่ 653 ไร่ โดยมีแผนขยายธุรกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ 34% และที่เหลือมาจากปิโตรเคมี, คอนซูเมอร์โปรดักต์ และอื่นๆ แบ่งเป็นลูกค้าไทย 20% ญี่ปุ่น 38% และขณะนี้มีลูกค้าจีนสนในเข้ามาอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ มีแผนพัฒนานิคมฯ ใหม่อีก 4 แห่งในอีสเทริน์ซีบอร์ด และสระบุรี ส่วนอีก 2 แห่งอยู่ในต่างประเทศ ล่าสุด แผนเข้าไปลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม บนพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ โดยจะเริ่มพัฒนาเฟสแรก 3,000 ไร่ ในปี 60 แบ่งเป็น 7 เฟส มูลค่าลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดใช้ระยะเวลาพัฒนา 7 ปี และคาดเซ็นสัญญาร่วมทุนภายในไตรมาส 4ปี 59 โดยบริษัทจะถือหุ้น 20%
