กฟผ.น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เชิญชาวไทยร่วมสืบสานปณิธานงานของพ่อ สานต่อ 9 พระราชปณิธานใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างความสุขให้ปวงประชาอย่างยั่งยืน
นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.น้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานซึ่งช่วยนำพาให้องค์การเจริญเติบโตก้าวหน้า และยังประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กฟผ.น้อมสืบสานปณิธานของพ่อ ผ่านพระราชปณิธาน 9 ด้าน ซึ่งจะเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ได้แก่ 1. ด้านการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 2. ด้านการประดิษฐ์และนวัตกรรม 3. ด้านการดูแลรักษาป่าและน้ำ 4. ด้านความพอเพียงและการเอาชนะความยากจน 5. ด้านการดูแลชาวนา 6. ด้านการศึกษา 7. ด้านการประหยัด 8. ด้านการเสียสละและการให้ทาน และ 9. ด้านการส่งเสริมให้เป็นคนดี
พระราชปณิธานด้านที่ 1 การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนนั้น กฟผ.ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ณ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยที่เขื่อนภูมิพล กฟผ. จัดกิจกรรม “ตามรอยเขื่อนพระราชา” ด้วยการแปรอักษรแสดงความอาลัยจากแสงเทียน เป็นคำว่า “BHUMIBOL DAM TAK © ร.๙” เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้ร่วมงานกว่า 6,000 คน และหลังจากนี้จะมีการจัดนิทรรศการเส้นทางตามรอยพ่อ ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 โดยจะมีนิทรรศการตั้งแต่จุดที่ทรงประทับแรม ณ เขื่อนภูมิพล ไปจนถึงสวนน้ำพระทัย ซึ่งเป็นสวนที่ กฟผ.จัดเทิดพระเกียรติเดิมอยู่แล้ว และ ณ ที่นี้จะมีการแสดงภาพพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับเขื่อนพระราชาแห่งนี้ ไปจนถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ
นอกจากนั้นจะจัดงาน “9 ที่สุดของหัวใจ” ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2559 ณ กฟผ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง เพื่อถ่ายทอดพระราชกรณียกิจผ่านพลังแห่งภาพและเสียง ได้แก่ การแสดงละครเวทีประกอบแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการนำแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวอันซาบซึ้งเพื่อก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง และประเทศชาติให้ยั่งยืนต่อไป
พระราชปณิธานด้านที่ 2 การประดิษฐ์และนวัตกรรม กฟผ.จะจัดโครงการ “กล้าคิด กล้าทำ ตามรอยพ่อ” เพื่อรณรงค์ให้เกิดการสร้างสิ่งประดิษฐ์ด้านการประหยัดพลังงาน และพัฒนาศักยภาพชุมชน พร้อมนำไปพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง
พระราชปณิธานด้านที่ 3 การดูแลรักษาป่าและน้ำ กฟผ.เป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่ได้มีโอกาสปลูกป่าถวาย จึงจะดำเนินโครงการ “ปกป่า ป้องน้ำ ตามรอยพ่อ” เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้อย่างต่อเนื่อง
พระราชปณิธานด้านที่ 4 ความพอเพียงและการเอาชนะความยากจน กฟผ.น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะจัดกิจกรรม “รักพ่อให้พอเพียง” นำชุมชนในพื้นที่รอบหน่วยงาน กฟผ.ศึกษาดูงาน ด้านการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างให้เกิดเป็นชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง 89 แห่ง
พระราชปณิธานด้านที่ 5 การดูแลชาวนา กฟผ.ได้ช่วยเหลือชาวนา ผ่านโครงการ “ข้าวไทย 9 ไกล ยั่งยืน” โดยให้พนักงาน กฟผ.ซื้อข้าวคนละ 9 กิโลกรัม ถวายเป็นพระราชกุศล มาตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน พร้อมขอความร่วมมือช่องทางการจัดจำหน่ายกับโรงเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียว และพิจารณาจัดหาเครื่องสีข้าวให้แก่ชาวนาในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า รวมทั้งจะร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคของจังหวัดต่างๆ ในการปรับปรุงเครื่องสีข้าวชุมชนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนจัดทำโครงการ “ข้าวชาวนา เบอร์ 5” โดยจะส่งเสริมให้ชาวนาผลิตข้าวตามมาตรฐานฉลากประหยัดไฟฟ้า เบอร์ 5
พระราชปณิธานด้านที่ 6 การศึกษา กฟผ.เตรียมจัดสร้าง “ศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาด้านพลังงาน ปลูกป่า และชีววิถี” บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือ Green Buffer ของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องพลังงาน การปลูกป่า และโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
พระราชปณิธานด้านที่ 7 การประหยัด กฟผ.จะรณรงค์ส่งเสริมให้ชาวไทยสวมใส่ “เสื้อเบอร์ 5” โดยเชิญชวนผู้ผลิตและผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ และร่วมรณรงค์ให้พนักงาน กฟผ. สวมใส่เสื้อผ้าประหยัดพลังงาน
พระราชปณิธานด้านที่ 8 การเสียสละและให้ทาน กฟผ.จะรณรงค์ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตจากพนักงาน กฟผ.ในปี 2560 ผ่านกิจกรรม “890,000 หยด ทดแทนพระคุณพ่อ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
พระราชปณิธานด้านที่ 9 การส่งเสริมให้เป็นคนดี โดยจะก่อสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อม 9 คำสอนของพ่อ ณ เขื่อนภูมิพล เขื่อนที่ได้ชื่อว่า ‘เขื่อนของพ่อ’