ผู้จัดการรายวัน 360 - ทีเอฟเอสรุกหนักเครื่องสำอางเกาหลี จ่อนำเข้าเพิ่มอีก 5 แบรนด์ พร้อมเล็งผุดร้านมัลติแบรนด์ชอป เผยตลาดรวมยังมีเกาหลีแบรนด์รุกไทยไม่ขาดสายกว่า 10 แบรนด์ใหม่แล้วในปีนี้ ด้านเดอะเฟสชอปแรงไม่หยุด เป้าปีหน้าครบ 100 สาขา อัดงบตลาดปีนี้ 40 ล้านบาทลุย ล่าสุดรับสิทธิ์ทำตลาดในลาวด้วย
นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและนำเข้าแบรนด์เดอะเฟสชอปของเกาหลีในไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลีอีกไม่ต่ำกว่า 5 แบรนด์ในเครือของแอลจีเพื่อเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมจากที่ทำอยู่แล้วแบรนด์เดียวคือ เดอะเฟสชอป และเตรียมที่จะเปิดเป็นร้านมัลติแบรนด์ชอปจำหน่ายหลายแบรนด์ในร้านเดียว พื้นที่ประมาณ 70-100 ตารางเมตร คาดว่าอาจจะเปิดสาขาแรกที่สีลมคอมเพล็กซ์แต่ยังไม่สรุป ซึ่งอาจจะเปิดตัวได้ปลายปีนี้ (2559) หรือต้นปีหน้า
เนื่องจากตลาดรวมเครื่องสำอางในไทยมูลค่ากว่า 250,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 15% และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ขณะที่ตลาดเครื่องสำอางจากเกาหลีนั้นยังมีสัดส่วนที่น้อยมากแค่ 10% จากทั้งหมด แต่ยังเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคคนไทยให้ความสนใจ จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเช่นเดียวกัน สังเกตได้ว่าปีนี้มีแบรนด์ใหม่จากเกาหลีเข้ามาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ ทั้งรายเล็กรายใหญ่ ขณะที่แบรนด์เกาหลีเดิมที่ทำอยู่ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวทางการตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อินนิสทรี สกินฟู้ด โซลวาซู เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงโฟกัสแบรนด์แรกและแบรนด์หลักในขณะนี้ก่อน คือ เดอะเฟสชอป ที่ทำมาแล้วประมาณ 2 ปี โดยขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งในตลาดเครื่องสำอางจากเกาหลีในไทยแล้ว ซึ่งปีที่แล้วเดอะเฟสชอปเติบโต 200% ในแง่ยอดขาย จากเดิม 2 ปีที่แล้วติดแค่ท็อปไฟว์เท่านั้น โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท และอีก 2 ปีจะมีรายได้เฉพาะแบรนด์เดอะเฟสชอปประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งแรกปี 2559 นี้มีรายได้ 200 ล้านบาทเพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 150% เป็นการเติบโตสูงที่สุดเท่าที่แบรนด์เดอะเฟสชอปทำตลาดในไทยมาตั้งแต่แรก
สำหรับแผนธุรกิจจากนี้คือ ปีหน้า (2560) จะเปิดให้ครบ 100 ชอป โดยสิ้นปีที่แล้วมี 45 สาขา และปีนี้ตั้งเป้าเปิดให้ครบ 70 สาขา ขณะนี้มีแล้ว 57 สาขา โดยอีก 13 สาขาที่จะเปิดในปลายปีนี้ด้วยงบรวม 20 ล้านบาทจะเน้นปริมณฑลและต่างจังหวัด บางแห่งมีแล้วจะเปิดซ้ำ เช่น พัทยา ภูเก็ต จะเปิดสาขาที่สอง นอกนั้นมีช่องทางออนไอน์และแอปพลิเคชันด้วยไลน์ด้วย แต่ขณะนี้ช่องทางสแตนด์อะโลนมีการเติบโตอย่างมาก
นอกจากนั้นได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์และร้านใหม่เพื่อให้มีความเป็นพรีเมียมและแตกต่างจากคู่แข่งแบรนด์อื่น เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว เหมือนในเกาหลีที่เริ่มทำแล้วเช่นกัน รวมทั้งปรับแพกเกจจิ้งใหม่ รวมทั้งได้มีการนำเข้าสินค้าใหม่ๆ ทำตลาดต่อเนื่องเพื่อขยายตลาด ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มประมาณ 10,000 รายต่อเดือน เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีเฉลี่ย 7,000 รายต่อเดือน ยอดซื้อต่อบิลเฉลี่ย 1,000 บาท
นายพิธานกล่าวด้วยว่า นอกจากตลาดในไทยแล้ว ล่าสุดยังได้รับสิทธิ์ในการทำตลาดที่ลาวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้เดินทางไปดูและศึกษาตลาดมาแล้ว คาดว่าในปีหน้าอาจจะเริ่มได้ โดยแนวโน้มอาจจะเป็นการลงทุนร่วมกับคนท้องถิ่นที่ลาวแต่ยังไม่สรุป
นางวรินดา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการแบรนด์และการตลาด กล่าวว่า ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เดอะ เทอราพี เฟิร์ส เซรั่ม โดยใช้เทคโนโลยี วอเตอร์ เบลนดิ้ง คริสตัล ซึ่งที่เกาหลีประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำยอดขายได้ถึง 100,000 ขวด นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายของเดอะเฟสชอปที่เกาหลีเพิ่มขึ้นถึง 2,700,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกิจกรรมทางการตลาดของ เดอะ เทอราพี เฟิร์ส เซรั่ม ในเมืองไทยจะมุ่งเน้นความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค อาทิ การจัดโปรโมชันซื้อเดอะ เทอราพี เฟิร์ส เซรั่ม 1 ขวด รับเดอะ เทอราพี ไฮเดตติ้ง ฟอร์มูล่า อีมัลชั่น ขนาด 130 มิลลิลิตร มูลค่า 829 บาท ฟรี และสมาชิกเดอะเฟสชอปยังจะได้รับส่วนลด 15% ในทุกอังคารแรกของเดือน รวมถึงสิทธิพิเศษในเดือนเกิด ได้รับส่วนลด 50% ซึ่งคาดว่าด้วยคุณสมบัติและโปรโมชันที่ดึงดูดใจจะทำให้ เดอะ เทอราพี เฟิร์ส เซรั่ม มียอดขายอยู่ที่ 2,000 ขวดต่อเดือน
“ราคาเดอะเฟสชอปในไทยตอนนี้ต่างจากเกาหลีประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งบางตัวเมื่อทำโปรโมชันอาจจะมีราคาต่ำกว่าที่เกาหลีด้วยซ้ำไป ซึ่งราคาของเราตอนนี้ ถ้าเป็นสินค้าเมนไลน์เฉลี่ย 600-800 บาท กลุ่มพรีเมียมเฉลี่ย 1,000-1,900 บาท และ เมกคอัพหลักร้อยบาทก็มี”