โอกาสในการดำเนินธุรกิจเครื่องสำอางถือว่ายังไปได้ ขึ้นอยู่กับใครจะสร้างความต่างได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสุดท้ายแล้วคุณภาพ และการใช้ที่เห็นผลจะกลายเป็นหัวใจหลักในการบุกธุรกิจนี้ ซึ่งไม่ต่างจาก “สบู่ถ่านไม้ไผ่” แบรนด์ Manee ที่ได้ใจวัยรุ่นไปเต็มๆ จากการช่วยรักษาสิวอย่างได้ผลในราคาเพียง 100 บาท
'สบู่ถ่านไม้ไผ่' สินค้าเพียง 1 ใน 2 ตัวที่ “นายวรากร สุทธิปริญญานนท์” หรือ น้องปิง ทำขายอยู่ ซึ่งเขาเป็นเด็กหนุ่มวัยเพียง 26 ปี ขอเลือกเดินในเส้นทางสายธุรกิจที่ตนเองสนใจ และรักที่จะทำกับ “สบู่ถ่านไม้ไผ่” เน้นสรรพคุณในการรักษาสิว ลดแบคทีเรีย จนเกิดกระแสบอกต่อในกลุ่มวัยรุ่น แต่กว่าธุรกิจนี้จะเกิดขึ้นเขาต้องใช้การลองผิดลองถูก และเคยล้มเหลวมาแล้ว แต่ก็ไม่ท้อเพราะเชื่อในคุณภาพของสินค้า
หากย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าตลาดเครื่องสำอางกำลังเติบโตอย่างมาก ทำให้น้องปิงเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ เนื่องจาก ณ เวลานั้นเขาเชื่อว่า ขายง่าย ลงทุนต่ำ หาตลาดง่าย และใช้ช่องทางขายในโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย แต่เมื่อได้มาลงมือทำด้วยตัวเองทุกอย่างกลับตรงกันข้าม เขาพบว่าธุรกิจเครื่องสำอางไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะการจะทำให้สินค้าติดตลาด และโดนใจลูกค้าได้นั้นเรื่องคุณภาพ และการ 'บอกต่อ' ของลูกค้าที่ใช้จริงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ไม่ตกกระแส หรือเป็นเพียงแฟชั่น
แต่ในความยากนั้น เขากลับพบว่าธุรกิจเครื่องสำอางยังมีช่องว่างทางการตลาดให้ค้นหา และแทรกเข้าไปได้ โดยดูจากมุมลบของเครื่องสำอางที่จะเห็นข่าวเกิดขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางแล้วแพ้ หน้าพัง ไม่มีสรรพคุณตามที่อวดอ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาใช้วิชาความรู้ที่เรียนจบมาทางด้านเกษตรศาสตร์ ที่ต้องค้นคว้าวิจัยในเรื่องพืช สารสกัดต่างๆ ของบรรดาพืชหลากหลายชนิด ทำให้รู้สรรพคุณและสมบัติของพืชแต่ละชนิดได้อย่างถ่องแท้ เขาจึงใช้สิ่งเหล่านั้นมาผสมรวมในผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกในชีวิต คือ “Sleeping Mask” ครีมพอกหน้าก่อนนอน อุดมด้วยสุดยอดสารสกัดจากพืชที่ล้วนช่วยบำรุงใบหน้าให้สดใส อย่าง สาหร่ายแดง รังนก เมือกหอยทาก เป็นต้น ซึ่งสารสกัดเหล่านั้นมีต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้ราคาจำหน่ายพุ่งขึ้นไปถึงกระปุกละ 850 บาท ทำให้ขายยาก และก็กลายเป็นโจทย์ที่ทำให้เขาต้องกลับมาขบคิดใหม่ถึงการทำตลาด และปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์
“ผงถ่านไม้ไผ่” หรือที่เรียกกันติดปากว่า 'ชาร์โคล' (Charcoal) ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสบู่จากถ่านไม้ไผ่ ภายใต้แบรนด์ Manee (มานี) เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่มีราคาไม่สูงมากนัก แถมยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิว รักษาสิวเสี้ยน สิวอักเสบ และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะช่วยทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย แต่คุณสมบัติของถ่านไม้ไผ่จะไม่ช่วยเรื่องผิวขาว ทำให้กลุ่มลูกค้าหลักเป็นวัยรุ่น นอกจากนี้เรายังใส่สารสกัดจากผลไม้ (Fruit Oil) เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าด้วย”
ช่องทางจำหน่ายที่เขาเลือกคือ ออนไลน์ ขายผ่านเฟซบุ๊ก (Facebook) ลูกค้าเป็นวัยรุ่นที่ใช้สื่อเหล่านี้เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แล้วเห็นผลจากสิวที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่สิวที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง หรืออื่นๆ ทำให้เกิดการบอกต่อทั้งในกลุ่มเด็กด้วยกัน และผู้ใหญ่ก็ซื้อมาใช้บ้าง เน้นเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว และล่าสุดเริ่มมีตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดแล้ว โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เป็นลูกค้าหลัก โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ก้อนละ 100 บาท และขายส่งให้ตัวแทนจำหน่ายที่ 70 บาท/ก้อน รวมถึงเริ่มมีตัวแทน ที่ จ.นนทบุรี ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการขยายธุรกิจนี้แบบป่าล้อมเมือง
สำหรับจุดเด่นของสบู่ถ่านไม้ไผ่ Manee อยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดยถ่านไม้ไผ่ที่เลือกใช้นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี เลือกใช้เกรดดีมีคุณภาพ เน้นความละเอียดกว่าผงถ่านไม้ไผ่ทั่วไปถึง 9 เท่าตัว ผ่านการอบความร้อนสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดรูพรุนจำนวนมากและสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ใช้แล้วไม่แพ้ เมื่อเลิกใช้ก็ไม่มีผลข้างเคียง ขณะที่ขนาดของสบู่อยู่ที่ 40 กรัม แม้ก้อนไม่ใหญ่มาก แต่ละลายช้าสามารถใช้ได้นานถึง 1 เดือนครึ่ง กำลังการผลิตอยู่ที่ 3,000-5,000 ก้อน/เดือน
แผนธุรกิจในอนาคตเขาเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า พร้อมหาตัวแทนหลักในระดับภูมิภาคเพื่อช่วยดูแลการตลาดและจำหน่ายสินค้า และเขาจะมุ่งไปที่การผลิต และการทำตลาดในภาพรวมเป็นหลัก โดยเชื่อว่าตลาดสบู่ถ่านไม้ไผ่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
***สนใจติดต่อ 09-2406-6251 หรือ Line ID : pingwarakorn***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *