xs
xsm
sm
md
lg

Hello Kitty หั่นราคาเมกอัพดันยอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “Hello Kitty” ยอดขายไม่ตก สวนกระแสเศรษฐกิจ ชูกลยุทธ์ “ลดราคาสินค้า-รักษาคุณภาพ” หัวหอกการตลาดรักษายอดขายครึ่งปีแรก คาดตุลาคมปีนี้ยอดขายพุ่ง ส่งสินค้าใหม่วางตลาดขายผ่าน “ซานริโอ แฟร์” ในเซ็นทรัล

น.ส.อภิณห์พร เสรีเลิศวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล คอสเมติคส์ จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าเครื่องสำอางแบรนด์ “เฮลโล คิตตี้” (Hello Kitty) กล่าวว่า แม้สภาพเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง แต่สำหรับเครื่องสำอางแบรนด์ Hello Kitty ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะภือเป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับกลุ่มลูกค้าหลักคือผู้หญิงและขยายไปยังกลุ่มเด็กตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการใช้กลยุทธ์การตลาดลดราคาสินค้าลงมา เช่น แป้งหอมตลับ จากราคา 265 บาท เหลือราคา 199 บาท และไวท์เทนนิ่ง โลชั่น จากราคาปกติ 295 บาท เหลือราคา 199 บาท จึงยังมีการเติบโตที่ดี

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายของ Hello Kitty ช่วงครึ่งปีหลัง 2559 จะเติบโตขึ้นจากการออกสินค้าตัวใหม่ ทั้งยังมีการจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าและลดราคา โดยการนำสินค้ามาจัดขายเป็นเซ็ตในราคาพิเศษ โดยบริษัท ยูนิเวอร์แซลฯ จะนำสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ Hello Kitty วางจำหน่ายผ่านงาน “ซานริโอ แฟร์” (Sanrio Fair) ซึ่งจัดเป็นประจำในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

เครื่องสำอาง Hello Kitty ที่มียอดขายดีมี 2 ผลิตภัณฑ์คือ แป้งหอมทาหน้า แบบตลับ ทั้ง 3 สี (สีขาว, สีชมพู และสีเนื้อ) และแป้งเด็ก แบบตลับ 2 สี (สีขาว และสีชมพู) สำหรับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป ตลับละ 199 บาท ขณะที่ลูกค้าหลักของเครื่องสำอาง Hello Kitty เป็นผู้ใหญ่ 80% ซึ่งมีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงกลุ่มวัย 30-40 ปี ส่วนที่เหลืออีกกว่า 10% เป็นกลุ่มเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป

เครื่องสำอาง Hello Kitty ทำตลาดในไทยมาครบ 11 ปี ในปี 2559 และประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอสเมติกครบวงจรภายใต้แบรนด์ Hello Kitty จนทำให้มีการขยายตลาดโดยออกเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ชื่อ “ลิตเติ้ล ทวิน สตาร์” (Little Twin Star) ตามมาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาโดยมีผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่น, ชุดเมกอัพ และแป้งเด็ก ขายในราคา 149 บาท จากราคาปกติ 199 บาท

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องสำอาง Hello Kitty เน้นจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น แผนกซานริโอ (Sanrio) ของเซ็นทรัล ในกุรงเทพฯ ทุกสาขา, แผนกบี เทรนด์ (Be Trend) ของเดอะ มอลล์ สาขาบางกะปิ, บางแค และงามวงศ์วาน, สยามพารากอน, ร้านเจ้เล้ง ดอนเมือง และร้านเฮลโล นีญ่า @K.Village สุขุมวิท 26

จากข้อมูล ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดอันดับ 10 ธุรกิจที่โดดเด่นจากปี 2554-2557 พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม อาทิ อาหารเสริมและเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มาแรงครองดันดับ 1 โดยตลาดเครื่องสำอางในช่วง 5 ปี มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดเฉลี่ย 18% ต่อปี มีมูลค่าการตลาดรวม 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60% มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท และตลาดส่งออก 40% มูลค่า 9 หมื่นล้านบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น