ภาคเอกชนยังคงมองการส่งออกปี 2559 เฉลี่ยทั้งปียังคงติดลบ 1-1.5% แม้ว่าส่งออกเดือน ส.ค. 59 พลิกกลับมาโต 6.5% ก็ตาม เหตุ 2 เดือนสุดท้ายของปีเป็นช่วงโลว์ซีซัน ขณะที่ตลาดส่งออกและแรงซื้อในประเทศที่ยังไม่ดีนักทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของไทยยังเฉลี่ยแค่ 62%
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า แม้ว่าการส่งออกในเดือน ส.ค. 59 ที่มีมูลค่า 18,825 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 6.5% ถือเป็นการพลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบ 5 เดือน ดังนั้น ภาพรวมการส่งออกของไทยปี 2559 จึงมีแนวโน้มที่จะติดลบน้อยลงจากที่มองไว้ติดลบ 2-0% โดยคาดว่าจะอยู่ระดับติดลบ 1-1.5%
“การส่งออกของไทยโอกาสที่จะโต 0.3% มองว่ายากนะเพราะว่าเท่ากับจะต้องส่งออกเฉลี่ยทุกเดือนที่เหลือ 4 เดือนให้ได้ระดับ 18,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นไปได้ยากมากเพราะปกติส่งออกในเดือน 11-12 ของทุกปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซัน โดยปีที่แล้วส่งออกเฉลี่ย 2 เดือนนี้อยู่ที่ 17,000 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่หากส่งออกเดือน ก.ย.และ ต.ค.เฉลี่ยลดลงมาอยู่ระดับ 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐจะติดลบ 1.5% ทันที” นายวัลลภกล่าว
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทยปัจจุบันยังเฉลี่ยอยู่ที่ 62% เนื่องจากภาวะการส่งออกโดยรวมติดลบ ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศยังไม่ดีมากนักเนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรตลาดโลกลดต่ำลง ซึ่งสินค้าเกษตรของไทยส่วนใหญ่ส่งออกส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดต่ำ ดังนั้นทำให้ภาคการผลิตยังคงมีอัตรากำลังการผลิตที่ยังเหลือค่อนข้างสูง
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า จากที่ติดตามภาวะการส่งออกเดือน ส.ค. 59 นั้นพลิกกลับมาโต 6.5% จากเดือน มิ.ย. ปัจจัยหลักมาจากยอดการส่งออกรถยนต์ที่มูลค่าขยายตัวถึง 4.2 หมื่นล้านบาท และส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ยางขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งมองว่าการส่งออกรถยนต์จะมาเป็นล็อตๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนี้ได้ทุกเดือน ภาพรวมจึงคาดว่าส่งออกอย่างไรปีนี้ก็ติดลบเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 1.3-1.5%
“การส่งออกของไทยค่อนข้างสวิงตัวพอสมควรแม้ว่าส่งออก ส.ค.จะพลิกโต 6.5% ซึ่งหากมองในแง่เหรียญสหรัฐมูลค่าส่งออกยังไงก็ติดลบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโต 0.3% เพียงแต่การส่งออกที่มองไว้คือสูงสุดจะติดลบ 2% มีโอกาสที่จะไม่ติดลบมากระดับนั้น ซึ่ง 8 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกมีมูลค่า 41,007 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว -1.2% แต่หากมาดูอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทจะเห็นว่า 8 เดือนแรกปีนี้เฉลี่ยที่ 35.23 บาทต่อเหรียญ เทียบกับ 8 เดือนแรกของปีก่อนอยู่ที่ 32.85 บาทต่อเหรียญ ภาพรวมค่าเงินบาทอยู่ในแดนอ่อนค่ามากดังนั้นทำให้มูลค่าบาทส่งออกเราก็ยังโต” นายธนิตกล่าว