xs
xsm
sm
md
lg

คนขับเรือโดนโทษหนัก! “เจ้าท่า” ล้อมคอก เร่งออกกฎบังคับติดระบบ AIS ติดตามเรือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กรมเจ้าท่า” ตั้ง กก.สอบสวน เอาผิดคนขับเรือล่มจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหน้าวัดสนามไชย เจอข้อหาหนักทั้งใบอนุญาตเดินเรือหมดอายุ บรรทุกน้ำหนักเกิน ด้านอธิบดีกรมเจ้าท่าเผยเสนอออกประกาศคำสั่งให้เรือในแม่น้ำเจ้าพระยา และอ่าวไทย ติดระบบ AIS แล้ว คาดมีผลบังคับปี 60

นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุบัติเหตุเรือสมบัติมงคลชัย จมลงในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดสนามไชย ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2559 เวลา 16.00 น.นั้น กรมเจ้าท่าได้ทำการตรวจสอบพบว่าเจ้าของเรือชื่อนายสุนทร พันธุ์เสือทอง ผู้ควบคุมเรือชื่อนายวิรัช ชัยศิริกุล หมายเลขทะเบียนเรือ 106600841 กว้าง 5.05 ยาว 27.70 ลึก 1.40 ขนาด 52.70 ตันกรอส โดยเรือผ่านการตรวจสภาพ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2559 และใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุวันที่ 7 มิถุนายน 2560

ขณะที่คนขับเรือนั้น ใบประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ หมดอายุตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีความผิดกรณีไม่มีใบอนุญาต ปรับ 2,000 บาท ส่วนกรณีที่คนขับเรือปล่อยให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกิน โทษปรับ 10,000 บาท จำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดแล้วพบว่ามีความผิดชัดเจน ส่วนเจ้าของเรือนั้นผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายได้

นายศรศักดิ์กล่าวว่า มาตรการในการดูแลติดตามเรือนั้น กรมฯ ได้เตรียมออกข้อบังคับในการเดินเรือเพิ่มเติมซึ่งได้เสนอไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว โดยจะออกประกาศบังคับให้เรือโดยสารแบบประจำทางและไม่ประจำทางขนาด 25 คนขึ้นไป ในแม่น้ำเจ้าพระยา และอ่าวไทย ต้องติดตั้งอุปกรณ์ติดตามเรือ หรืออุปกรณ์แสดงตัวอัตโนมัติ AIS (Automatic Identification System) ซึ่งจะสามารถติดตามเฝ้าระวังเรือ และดูพฤติกรรมการขับเรือได้ตลอดเวลา โดยคาดว่าจะประกาศและมีผลบังคับใช้ในปี 2560 โดยก่อนหน้านี้ได้บังคับใช้ที่เรือโดยสารและท่องเที่ยวฝั่งอันดามันไปแล้ว

“กรมฯ มีมาตรการด้านความปลอดภัยในการเดินเรือ เช่น ติดตั้งระบบ AIS แต่อยู่ในกระบวนการก่อนออกประกาศ และจะต้องให้เวลาเจ้าของเรือเตรียมตัวด้วยซึ่งประกาศนี้จะครอบคลุมเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา และอ่าวไทยทั้งหมด”

สำหรับการสอบสวนนั้นพบว่า เรือที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเรือที่ได้ร่วมขบวนแห่ของชาวมุสลิมที่เดินทางมาจากตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำพิธีตามความเชื่อทางศาสนา ณ มัสยิดอารียิดดารอยน์ ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา และได้เดินทางไปทำพิธีกรรมที่มัสยิดตะเกี่ยโยคิณราชมิสจินจาสยาม ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเดินทางกลับจากมัสยิสตะเกี่ยโยคิณฯ ผู้ควบคุมเรือพยายามนำเรือแซงเรือบรรทุกทรายแต่ไม่สามารถแซงได้และเสียหลักจนกระทั่งจมลงบริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 44 คน ผู้สูญหาย 12 ราย และเสียชีวิต 15 ราย

โดยขณะนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยาได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 210 เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมรักษาการควบคุมการจราจรทางน้ำอำนวยความสะดวก ร่วมค้นหาผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายร่วมกับป้องกันภัยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับวางทุ่นเครื่องหมายการเดินเรือล้อมบริเวณเกิดเหตุ ออกหนังสือแจ้งความดำเนินการคดีกับผู้ควบคุมเรือ หนังสือแจ้งเจ้าของเรือโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช 2456 ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพระนครศรีอยุธยา ผู้ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจ้าท่าในฐานะ “เจ้าท่า” สั่งให้เจ้าของเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือเริ่มดำเนินการกู้เรือสมบัติมงคลชัยภายใน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่ได้รับคำสั่ง เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการจม หากดำเนินการไม่ได้ กรมเจ้าท่าจะดำเนินการกู้เรือและจะเรียกค่าดำเนินการทั้งหมดจากเจ้าของเรือ

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ โดยมีนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพระนครศรีอยุธยา โทร. 0-3524-1733 พร้อมกันนี้นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า และนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และร่วมประชุมเพื่อสรุปหาแนวทางดำเนินการทั้งการเยียวยา การดำเนินคดี และการกู้เรือ ในส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น