MGR Online - เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำระดมกำลังเร่งค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุสลดเรือโดยสาร “สมบัติมงคลชัย” ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ว่าฯ อยุธยา พร้อมสั่งปิดลำน้ำเพิ่มรัศมีในการค้นหาเพิ่ม 5 กม. หลังชาวบ้านแจงพบศพลอยน้ำ 3 ศพ พร้อมประกาศชาวบ้านช่วยสังเกตการณ์ริมน้ำ
จากกรณีเรือชื่อสมบัติมงคลชัย เรือท่องเที่ยวสองชั้นขนาดใหญ่ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารชาวไทยมุสลิมกว่า 100 คนไปร่วมงานประจำปีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดอุบัติเหตุล่มมกลางแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงบริเวณหน้าวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 15 ราย บาดเจ็บ 46 คน และสูญหาย 14 คน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของแต่ละหน่วยงาน เช่น ตำรวจน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่กู้ภัย จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ตลอดริมฝั่งใกล้กับที่เกิดเหตุยังคงมีญาติผู้สูญหายมาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีประชาชนที่ให้ความสนใจมาร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงไม่พบผู้เสียชีวิตหรือสูญหายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.15 น.ที่ผ่านมา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์พร้อมเปิดเผยถึงแผนการค้นหาผู้สูญหายว่า วันนี้ได้แบ่งการปฏิบัติงานออกเป็นสองส่วน คือ ชุดแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำโดยชุดนักประดาน้ำจะลงไปตรวจสอบหัวเรือซึ่งเป็นห้องเครื่องและเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการตรวจสอบบริเวณชั้นสองสามารถเคลียร์ได้เรียบร้อยแล้วไม่พบเจออะไร คาดว่า 1 ชั่วโมงก็จะสามารถตรวจสอบ บริเวณห้องเครื่องส่วนหัวเรือได้เรียบร้อยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดโดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมการท่า ตำรวจน้ำ และกู้ภัยจะดำเนินการตรวจสอบตามลำน้ำสองฝั่งในรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ โดยจะแบ่งพื้นที่กันรับผิดชอบกระจายกำลังในการค้นหาตลอดแนว หากจุดใดที่เป็นน้ำวนก็จะมีนักประดาน้ำลงไปตรวจสอบค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต หากการค้นหาในรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่พบผู้เสียชีวิตก็จะขยายรัศมีในการค้นหาเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้านช่วยกันกระจายบอกให้ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำช่วยกันสังเกตหากพบเห็นสิ่งผิดปกติก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนการกู้เรือยังไม่มีการกู้เรือเนื่องจากไม่ได้กีดขวางการจราจรทางน้ำ และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานค้นหา ทางกรมเจ้าท่าได้ประกาศปิดการจราจรทางน้ำ ทั้งเรือโดยสารและเรือพาณิชย์ในรัศมีใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่จนกว่าจะมีปฏิบัติการค้นหาเสร็จสิ้น ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ขับขี่เรือนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ได้ดำเนินแจ้งข้อหาหาขับเรือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเวลา 10.10 น. ภายหลังจากการออกค้นหา เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย บริเวณใกล้เคียงกับสะพานกู๊ดวิว หรือสะพาน 356 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จากการตรวจสอบผ่านไป 30 นาที เจ้าหน้าที่ยังไม่พบร่างของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
วันนี้ 13.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเพศหญิงเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 17 ทราบชื่อต่อมา คือ ด.ญ.นัสริน บุญรัก อายุ 13 ปี โดยศพดังกล่าวถูกพบหลังลอยติด บริเวณท่าน้ำหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่พบศพรายที่ 18 เป็นเพศหญิง ที่บริเวณหน้าวัดไก่เตี้ยพฤฒาราม ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อต่อมาคือ นางมัชรีณ์ รักพงษ์ อายุ 48 ปี
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตกจากจุดที่พบทั้งสองจุด บรรทุกใส่เรือก่อนนำมาขึ้นที่ท่าน้ำวัดสนามไชย ซึ่งตั้งเป็นกองอำนวยการ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรศพพร้อมเก็บหลักฐาน ก่อนส่งมอบให้ญาตินำศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่ม จนถึงขณะนี้มีจำนวน 18 ราย บาดเจ็บ 43 และสูญหาย 11 ราย