พระนครศรีอยุธยา - เผยนาทีระทึกเรือท่องเที่ยว 2 ชั้น ล่มกลางเจ้าพระยา หน้าวัดสนามไชยฯ กรุงเก่า เหตุเกิดขณะที่เรือบรรทุกทรายเล่นอยู่ด้านหน้าในเส้นทางของเรือที่บรรทุกผู้โดยสารมา นายท้ายเรือพยายามจะหลบเรือบรรทุกทราย จนทำให้บังคับเรือไม่ได้เนื่องจากกระแสน้ำแรง ประกอบกับคนบนเรือมีอาการตกใจพยายามวิ่งไปรวมกันที่ท้ายเรือ เรือจึงพุ่งชนเสาเข็มที่ตอกอยู่เป็นแนวเขื่อนที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดสนามไชย เผยล่าสุด เสียชีวิต 13 เจ็บ 39 ราย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเรือขบวนแห่ของชาวมุสลิมล่มที่บริเวณหน้าวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เดินทางมาจากตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี มุ่งหน้ามัสยิดตะเกี่ย ตำบลคลองตะเคียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมงานประจำปีของชาวมุสลิมของอำเภอพระนครศรีอยุธยา ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเดินทางกลับจากมัสยิดตะเกี่ย โดยเรือได้เกิดเหตุชนตอม่อบริเวณวัดสนามไชย หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเรือท่องเที่ยว 2 ชั้น ขนาดใหญ่ ชื่อเรือสมบัติมงคลชัยทับทิม จมในลักษณะเอียงอยู่ภายในแม่น้ำในส่วนของชั้นล่างทั้งหมด
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้โดยสารขึ้นจากเรือจนหมด และนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้ใช้เชือก และทุ่นวางแนวการป้องกันเรือจม และไหลลงไป รวมทั้งส่งชุดประดาน้ำลงไปค้นหาภายในเรืออย่างละเอียด ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลแรง
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 13 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือต่อเนื่อง
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงกรณีเรือนักท่องเที่ยวล่มว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมกำลังเข้าช่วยเหลือซึ่งยังไม่สามารถระบุตัวเลขผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตที่แน่นอนได้ สำหรับสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการที่เรือดังกล่าวไปเฉี่ยวชนเรือที่มาในขบวนเดียวกัน ก่อนจะไปชนกับเขื่อนริมตลิ่งจนทำให้จมลงดังกล่าว แต่ยังต้องรอการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง
เมื่อเวลา 18.30 น.มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปภ.พระนครอยุธยา ได้แจ้งข้อมูลล่าสุดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มหน้าวัดสนามไชย ผู้เสียชีวิตเป็น 13 ราย บาดเจ็บ 31 คน
นายอรรณพ กุฎีพันธ์ อายุ 50 ปี ที่มากับเรือลำดังกล่าวเปิดเผยว่า ได้มาร่วมงานบุญประเพณีของชาวไทยอิสลาม เรียกว่างานโฮ้ล งานประเพณีทำบุญครูของอิสลาม ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนเรือพร้อมชาวมุสลิมเกือบ 150 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นสตรีก่อนที่จะเกิดเหตุขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่นั้นได้มีเรือบรรทุกทรายเล่นอยู่ด้านหน้าในเส้นทางของเรือที่บรรทุกผู้โดยสารมา
“นายท้ายเรือพยายามที่จะหลบเรือบรรทุกทรายจนทำให้บังคับเรือไม่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรง ประกอบกับคนบนเรือมีอาการตกใจพยายามวิ่งไปรวมกันที่ท้ายเรือ เรือจึงพุ่งชนเสาเข็มที่ตอกอยู่เป็นแนวเขื่อนที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดสนามไชย จนทำให้เรือดังกล่าวตะแคง คนบนเรือพยายามกระโดดออกจากเรือกันอลหม่าน ไม่กี่นาทีเรือก็ค่อยๆ จมลง"
ขณะที่ผู้รอดชีวิตที่โดยสารมากับเรือดังกล่าวรายหนึ่งเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเรือลำดังกล่าวได้กลับจากการทำพิธีมัสยิดอาลียิดดาลอยน์ มีผู้โดยสารอยู่ชั้นล่างเรือประมาณ 50-60 คน เมื่อมาถึงวัดสนามไชย จุดเกิดเหตุ เรือจะจอดเทียบท่า แต่ปรากฏว่า กลางท้องเรือเกิดครูดกับวัตถุบางอย่างจนส่งผลให้เกิดรูกลางลำเรือ ต่อมา เวลาเพียงแค่ 1 นาทีเรือก็ได้ล่มลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ตนซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 ของเรือจึงได้เกาะเสาเรือขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย
พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเรือล่มว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นเรือทางศาสนา เดินทางมาจากจังหวัดนนทบุรี มุ่งหน้ามัสยิดอาลียิดดาลอยน์ ภูเขาทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเรือดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมาจำนวน 150 คนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เบื้องต้น เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวนหลายราย ส่วนผู้บาดเจ็บยังกระจัดกระจายไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัด
ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือผู้สูญหายซึ่งยังไม่สามารถระบุตัวเลขผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตที่แน่นอนได้ ล่าสุด ตนได้มอบหมายให้ นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ เลขานุการนายกนำเจ้าหน้าที่ออกให้การช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว
เมื่อเวลา 19.30 น.มีรายงานข่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 6 ราย มีเด็ก 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 39 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 24 ราย เด็กชาย 5 ราย เด็กหญิง 3 ราย คาดว่าจะยังมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาอยู่ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่กำลังประดาน้ำในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขณะนี้ท้องฟ้ามืด และมีฝนตกลงมา เจ้าหน้าที่ต้องนำไฟมาส่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาท่ามกลางมารอเฝ้าดูของญาติ และประชาชนจำนวนมาก
