ผู้จัดการรายวัน 360 - “มาลีกรุ๊ป” จับมือ “เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์” ลงขัน 10 ล้านบาทตั้งบริษัทร่วมทุนรับเมกะเทรนด์การใส่ใจเรื่องสุขภาพ พัฒนาธุรกิจใหม่ทางด้านผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ บุกตลาดทั้งในประเทศ และส่งออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ผู้นำธุรกิจน้ำผลไม้และเครื่องดื่มของประเทศไทย และ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับสากล เปิดตัวบริษัทร่วมทุน บริษัท เมก้า มาลี จำกัด หรือ Mega Malee เพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ทางด้านผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยมีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 10 ล้านบาท
การลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นการลงทุนของ MEGA ร้อยละ 51 และของ MALEE ร้อยละ 49 โดยอาจมีการเพิ่มจำนวนเงินลงทุนภายในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้าตามการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ Mega Malee จะครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดและการจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยในระยะแรก Mega Malee จะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์พร้อมดื่ม (Ready-to-Drink)
นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ Chief Coach บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า MEGA มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพให้เป็นที่รู้จักและเข้าใจมากขึ้นเพื่อผู้บริโภคสามารถบำรุงสุขภาพและป้องกันโรคแทนการรักษาพยาบาลซึ่งเป็นการจัดการที่ปลายเหตุและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ขณะที่ MALEE มีวิสัยทัศน์ที่จะขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเพียงผลไม้และเครื่องดื่ม เป็นบริษัทที่จะหันมาดูแลสุขภาพของผู้บริโภคอย่างเต็มตัว โดยภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง MEGA กับ MALEE จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแนวใหม่ซึ่งได้รับการรับรองผลทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่าจะช่วยให้สุขภาพของผู้บริโภคดีขึ้นได้
“MEGA มีความเชี่ยวชาญทางด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ หรือ Pharmaceutical ในขณะที่ MALEE มีความเชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์พร้อมดื่ม ประกอบกับความแข็งแกร่งของช่องทางการจัดจำหน่ายของทั้ง MALEE และ MEGA ที่แตกต่างกัน การร่วมทุนครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองบริษัทมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ ยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพให้มีมาตรฐานการผลิตเช่นเดียวกับการผลิตยาตามกลยุทธ์ของ MEGA” นายวิเวกกล่าว
ด้าน นายฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นเลือกสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยการใส่ใจเรื่องสุขภาพ (Health and Wellness) คือหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลกและของประเทศไทยเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังคงมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด
MALEE และ MEGA มองเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผู้บริโภคจะได้รับคุณประโยชน์ต่อร่างกายโดยตรง ซึ่งคุณประโยชน์ดังกล่าวจะได้รับการรับรองผลทางวิทยาศาสตร์และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายฉัตรชัยกล่าวด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ของ Mega Malee เป็นเครื่องดื่มจริงที่ทำให้ผู้บริโภคจะรู้สึกเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายและมีความเข้าใจว่าการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายของผู้บริโภคทุกคน ซึ่งถือเป็นการร่วมมือกันปฏิวัติวงการผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดย MALEE และ MEGA มีความมั่นใจว่าแนวคิดดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่มีความใส่ใจต่อสุขภาพและกลายเป็นอนาคตที่มั่นคงของทั้งสองบริษัทต่อไป รวมถึงจะช่วยเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ MALEE ให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ทั้งยังเสริมภาพลักษณ์ของ MALEE ที่จะมุ่งสู่ความเป็นผู้นำทางด้านสุขภาพตามกลยุทธ์ของ MALEE
อนึ่ง MEGA เป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตยาในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนาภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM และ MaxxcareTM และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับสากล เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วน MALEE ดำเนินธุรกิจทั้งแบบ Own Brand Manufacturing คือ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม น้ำผลไม้และผลไม้กระป๋องภายใต้แบรนด์ “MALEE” รวมถึงนมโคสดแท้ 100% ภายใต้แบรนด์ “ฟาร์มโชคชัย” นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing) ให้บริษัทชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ