นายซีริล เบอร์แมน ประธานกรรมการ บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป หรือ PHCG ผู้นำด้านธุรกิจการจัดจำหน่ายและการตลาดของยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือ-อุปกรณ์ทางการแพทย์ นมแพะผง เวชสำอาง และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพระดับชั้นนำจากทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมานานกว่า 55 ปี และนมแพะผงจากนิวซีแลนด์ก็เป็นที่ยอมรับและมีขายมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยจะมุ่งเน้นจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย และยาคุณภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพดี เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เติบโตต่อเนื่อง จนกระทั่งเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมฟาร์มาซูติคอล ซึ่งมีผลประกอบการสูงถึงกว่า 2,000 ล้านบาท/ปี และมีแน้วโน้มจะเพิ่มมากขึ้นปีละ 20%
“ทั้งนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมฟาร์มาซูติคอลและสินค้าสุขภาพจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น บริษัทยังมีข้อได้เปรียบคู่แข่งคือเป็นผู้จัดจำหน่ายรายแรกที่ได้ขยายการดำเนินงานไปยังกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, พม่า, มาเลเซีย, สิงคโปร์, บรูไน, ลาว และกัมพูชา เพื่อรองรับความต้องการของประชากรกว่า 600 ล้านคนในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ใน 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย (บริษัทแม่), ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม และมีผลกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีแผนที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศเออีซีในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะธุรกิจนมแพะผงที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ที่กำลังขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว”
นายซีริลกล่าวต่อไปอีกว่า เรามีความภูมิใจที่อยู่เคียงข้างคนไทย และเป็นเวลากว่า 55 ปีจนถึงทุกวันนี้ที่บริษัทยังคงยึดมั่นในความคิดที่มุ่งหวังให้สุขภาพของคนไทยดีขึ้น เราสรรหาให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นตลอดไป
“อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในภาคพื้นเอเชียและในประเทศไทยปี 2558 มีมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท คาดว่าปี 2559 จะเติบโตมากกว่า 20% ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวมาจากการทำการตลาดที่เข้มข้น และการลงทุนใหม่ๆ เช่น การเข้าไปขยายสาขาที่พม่า เป็นต้น แผนงานดังกล่าวจะทำให้เพิ่มโอกาสช่องทางการจำหน่าย และขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสินค้ามีคุณภาพตรงกับความต้องการของผู้บริโภค สำหรับแนวโน้มการแข่งขันแม้จะมีสูง แต่มั่นใจตลาดยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะอุตสาหกรรมยาเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ นอกจากตลาดต่างประเทศที่มีการขยายตัว ตลาดในประเทศก็ขยายตัวเช่นกัน”
ด้านนายพาทริค โรมัน บรูล์มาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังทำธุรกิจนมแพะผงซึ่งผลิตและนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ แบรนด์ DG ซึ่งเป็นนมแพะคุณภาพสูงที่ใช้สำหรับเลี้ยงทารกและเด็กเล็ก ซึ่งได้รับการตอบรับจากแม่สมัยใหม่อย่างดีเยี่ยม และมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งนำเสนอคุณประโยชน์ที่ดีจากนมแพะ สื่อสารไปยังคุณแม่และผู้บริโภคให้ได้รับทราบมากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าทั้งปีนี้จะส่งผลให้ยอดขายของนมแพะผงดีจีเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับตลาดนมผงพรีเมียมที่เติบโตเพียง 1-3% เท่านั้น โดยไตรมาสสองที่ผ่านมานี้นมแพะผงดีจีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 สูตร
นมผงทั่วไปหลักๆ ในท้องตลาดจะแบ่งตามช่วงอายุ และนมแพะผงดีจีเองก็มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่แรกเกิดจนถึงทุกคนในครอบครัวก็กินได้ ซี่งก็คือ สูตร 1สำหรับเด็กแรกเกิดถึง 1 ขวบปี สูตร 2 สำหรับทารกและเด็กเล็ก 6 เดือนถึง 1 ขวบ และสูตร 3 สำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว ขณะนี้ตลาดกำลังขยายตัวไปอย่างรวดเร็วทั้งในและต่างประเทศ
โดยทางแบรนด์ DG ยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมเรื่องนมแม่เป็นหลัก ซึ่งลูกน้อยควรได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป เพราะในน้ำนมแม่มีโปรตีนและไขมันที่ย่อยง่าย และยังมีสารอาหารครบถ้วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มการแข่งขันในตลาดนมผงสำหรับเด็กจะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่บริษัทเราจะชูจุดแข็งด้านคุณภาพ เพราะเป็นนมนำเข้าที่ผู้บริโภคมีความภักดีต่อตราสินค้า ซึ่งในครึ่งปีหลังเรามีแผนการส่งเสริมการขายที่จะเน้นให้ความสำคัญต่อกิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ครั้งนี้เป็นการตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบโลกโซเชียลโลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อหาข้อมูลใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับลูกน้อย ทั้งในส่วนของโภชนาการและการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่ดีสมวัย และฉลาดอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านช่องทาง Facebook และ website ของ DG เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น