“สุวิทย์” ยอมรับส่งออกทั้งปี 59 จะอยู่ในกรอบบวกลบไม่เกิน 2% เหตุเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี เผยอยากให้มองภาพรวมเป็นหลัก เพราะเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง เติบโตทุกด้านทั้งการลงทุน ท่องเที่ยว บริการ ยกเว้นส่งออกที่มีปัญหา ส่วนตัวเลขเดือน ก.ค.ที่ติดลบเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรมศุลกากรยกมูลค่าส่งออกยานยนต์ออก เตรียมมอบโยบายทูตพาณิชย์ดันส่งออกสินค้านวัตกรรม และช่วยสร้างแบรนด์ไทย
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ประเมินตัวเลขส่งออกสินค้าไทยทั้งปี 2559 มีโอกาสที่จะขยายตัวบวกลบไม่เกิน 2% โดยหากการส่งออกทั้งปีเพิ่ม 2% จะมีมูลค่า 2.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หากติดลบ 2% จะมีมูลค่า 2.10 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่กระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5% ถือเป็นเป้าหมายในการทำงานในการผลักดันการส่งออกท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาด้านโครงสร้างเศรษฐกิจในหลายประเทศ
“ในปี 2559 มีคาดการว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.1% หรือต่ำสุดในรอบ 7 ปี แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร หากมีการผลักดันอย่างดีที่สุด แม้ตัวส่งออกสุดท้ายจะออกมาที่ 0% ก็คงดีกว่าไปตั้งตัวเลขน้อยๆ หรือติดลบ”
ทั้งนี้ กระทรวงฯ อยากให้มองในภาพรวมเป็นหลัก โดยเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งจากตัวเลขที่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 จะขยายตัว 3.5% ถือว่าเติบโตทั้งจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน การท่องเที่ยว ภาคบริการ ยกเว้นส่งออกที่ยังมีปัญหาเพราะเศรษฐกิจโลก แต่ไทยก็ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดในแง่ปริมาณส่งออกสินค้าเอาไว้ได้ แม้ว่ามูลค่าอาจลดลง ซึ่งยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง
นายสุวิทย์กล่าวว่า สำหรับตัวเลขการส่งออกในเดือน ก.ค. 2559 ที่มีการปรับตัวเลขใหม่ โดยส่งออกได้มูลค่า 1.70 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 6.4% จากก่อนหน้านี้ที่แถลงข่าวว่าการส่งออกเดือน ก.ค.มีมูลค่า 1.74 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.4% เนื่องจากมีการยกตัวเลขการส่งออกในกลุ่มสินค้ายานยนต์ออกไปมูลค่า 370 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะหลังจากที่ตรวจสอบตัวเลขกับกรมศุลกากรแล้ว ยังไม่มีการนำตัวเลขดังกล่าวมารวม เพราะแม้จะมีการส่งออกไปจริง แต่ยังไม่มีการจ่ายใบขนสินค้า ทำให้กรมศุลกากรจะนำตัวเลขส่งออกยานยนต์มูลค่าดังกล่าวมารวมไว้ในตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค.แทน
ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2560 กระทรวงฯ จะมีการประเมินปัจจัยสนับสนุนที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งเศรษฐกิจโลก ปัจจัยอื่นๆ รวมถึงเศรษฐกิจภายในประเทศว่าจะสามารถสนับสนุนการส่งออกได้มากน้อยแค่ไหน
นายสุวิทย์กล่าวว่า ในการประชุมมอบนโยบายให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่จะจัดขึ้นช่วงการจัดงานบางกอกเจมส์วันที่ 7-11 ก.ย.นี้ จะมอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ทำหน้าที่ในการผลักดันขายสินค้านวัตกรรมให้กับประเทศไทย เช่น กลุ่มสินค้าเครื่องจักรทางการเกษตร หุ่นยนต์ดินสอ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าไทย และเป็นสิ่งที่ไทยผลิตเองได้ เพราะภาคส่งออกต้องปรับโครงสร้างการผลิต จะมาส่งออกแต่ข้าว มัน ยาง อย่างที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แต่ต้องส่งออกสินค้าที่มีนวัตกรรมด้วย
นอกจากนี้จะมอบนโยบายให้เร่งผลักดันแบรนด์ไทยเข้าสู่ระดับโลก ซึ่งต้องไปทำแผนว่าจะดำเนินการได้อย่างไร อย่างเช่นแบรนด์คาราบาวแดง สินค้าที่นิยมในตลาดและกำลังสร้างแบรนด์ออกสู่ตลาดโลก ทูตพาณิชย์ก็ต้องมีส่วนช่วยผลักดันว่ารัฐบาลจะมีส่วนสนับสนุนได้อย่างไร โดยกระทรวงฯ มีโครงการที่จะสนับสนุนทั้งท็อปไทยแบรนด์ โครงการเอสเอ็มอีโปรแอ็กทีฟที่จะส่งเสริมอย่างต่อเนื่องให้แบรนด์ไทยไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป