นายธนายุทธ ทองจินดาวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด เผยว่า "บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพารา โดยจำหน่ายสินค้าที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพที่ทำจากยางพารา 100% โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยภายหลังจากการรุกธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยางพาราจนเป็นที่ยอมรับ จึงเกิดแนวความคิดในการส่งเสริมธุรกิจสินค้ายางพาราเพื่อให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ประกอบกับในยุคปัจจุบันการทำธุรกิจไม่ใช่หมายถึงการขายอย่างเดียว แต่จะต้องเน้นการให้ความรู้และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ซื้อ จึงเป็นที่มาของการสร้าง RubberLand บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม. ด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อจะเป็นอุทยานการเรียนรู้เรื่องยางพาราและแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ"
การเปิดตัว "RubberLand" ครั้งนี้ถือเป็นการฉีกแนวกลยุทธ์การตลาดที่จะยกระดับแบรนด์และสร้างความเหนือกว่าทางธุรกิจด้วยการมอบประสบการณ์และสร้างสรรค์คอนเท็นต์เพื่อชูจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครด้วยกลยุทธ์ "Attraction Marketing" โดย นายธนายุทธ ได้เปิดเผยว่า การขายสินค้าหรือการให้บริการแบบทั่วๆ ไปไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน ที่ลูกค้าให้ความสำคัญของคอนเท็นน์และประสบการณ์ ที่ลูกค้าจะได้รับมากขึ้น เพื่อให้เกิดความจดจำและความเชื่อมั่นในสินค้า อีกทั้งกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนคนกลุ่มนี้ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง เราจึงเกิดไอเดียในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะทางในเรื่องของยางพาราโดยเฉพาะ
"เราเชื่อว่า RubberLand ไม่เพียงแต่จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของ พี.พี. สยามลาเท็กซ์ ในฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราเท่านั้น แต่ยังจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้ายางพาราไทย รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมศักยภาพของการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย" นายธนายุทธ กล่าว
นอกจากนี้ นายฐวัฒน์ สมนะโนพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "สินค้าหลักของบริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ คือ ที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากยางพาราแท้ 100% โดยมีจุดเด่นที่การออกแบบให้เหมาะสมกับสุขลักษณะการนอนรับกับสรีระและหมดปัญหาเรื่องไรฝุ่น โดยที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทย โดยผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพาราไทยเป็นที่นิยมมากในหมู่คนจีนมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย โดยล่าสุดในปี 2558 มีรายได้สูงถึง 1,200 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และในอนาคตมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย"
RubberLand สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบทั้งสาระและบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยเนื้อหาสาระที่ถูกนำเสนอครบทั้งสาระและความบันเทิง (Edutainment) ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ความบันเทิงแบบโต้ตอบผ่านเทคนิคมัลติมีเดีย และภาพสามมิติเสมือนจริง 3D Project Mapping โดยพื้นที่กว่า 80% เป็นพื้นที่ของอุทยานการเรียนรู้ และอีก 20% เป็นพื้นที่สำหรับช้อปปิ้งสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
"การเปิดตัว RubberLand จึงถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่จะทำให้ทุกคนได้มีความรู้เกี่ยวกับสินค้ายางพาราไทยมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งใหม่ล่าสุดของพัทยาแน่นอน เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงขอมอบของขวัญพิเศษให้คนไทยทุกคนได้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้" นายฐวัฒน์ กล่าว
RubberLand ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม. บนถนนสุขุมวิท พัทยากลาง นับเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมความมหัศจรรย์ของ "ยางพารา" พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ผ่านสื่อการเรียนรู้เพื่อความบันเทิงแบบโต้ตอบ (3D Mapping) ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาของคนไทยได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนศูนย์การเรียนรู้ แบ่งเป็น โซนป่ายาง, โซนแปรรูปยาง, โซนยางกับชีวิตประจำวัน, โซนมหัศจรรย์ยางพารา และโซนที่สองที่เป็นโซนจำหน่ายสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
ผู้สนใจสามารถเข้าชม RubberLand อุทยานการเรียนรู้เรื่องยางพารา ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อัตราค่าเข้าชม คนไทยราคา 100 บาท เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 ซม. ราคา 60 บาท ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. ไม่เสียค่าใช้จ่าย และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดอย่างเป็นทางการ คนไทยทุกคนสามารถเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้
การเปิดตัว "RubberLand" ครั้งนี้ถือเป็นการฉีกแนวกลยุทธ์การตลาดที่จะยกระดับแบรนด์และสร้างความเหนือกว่าทางธุรกิจด้วยการมอบประสบการณ์และสร้างสรรค์คอนเท็นต์เพื่อชูจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครด้วยกลยุทธ์ "Attraction Marketing" โดย นายธนายุทธ ได้เปิดเผยว่า การขายสินค้าหรือการให้บริการแบบทั่วๆ ไปไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน ที่ลูกค้าให้ความสำคัญของคอนเท็นน์และประสบการณ์ ที่ลูกค้าจะได้รับมากขึ้น เพื่อให้เกิดความจดจำและความเชื่อมั่นในสินค้า อีกทั้งกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนคนกลุ่มนี้ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง เราจึงเกิดไอเดียในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะทางในเรื่องของยางพาราโดยเฉพาะ
"เราเชื่อว่า RubberLand ไม่เพียงแต่จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของ พี.พี. สยามลาเท็กซ์ ในฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราเท่านั้น แต่ยังจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้ายางพาราไทย รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมศักยภาพของการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย" นายธนายุทธ กล่าว
นอกจากนี้ นายฐวัฒน์ สมนะโนพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "สินค้าหลักของบริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ คือ ที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากยางพาราแท้ 100% โดยมีจุดเด่นที่การออกแบบให้เหมาะสมกับสุขลักษณะการนอนรับกับสรีระและหมดปัญหาเรื่องไรฝุ่น โดยที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทย โดยผลิตภัณฑ์ที่นอนและหมอนยางพาราไทยเป็นที่นิยมมากในหมู่คนจีนมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย โดยล่าสุดในปี 2558 มีรายได้สูงถึง 1,200 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และในอนาคตมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย"
RubberLand สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบทั้งสาระและบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยเนื้อหาสาระที่ถูกนำเสนอครบทั้งสาระและความบันเทิง (Edutainment) ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ความบันเทิงแบบโต้ตอบผ่านเทคนิคมัลติมีเดีย และภาพสามมิติเสมือนจริง 3D Project Mapping โดยพื้นที่กว่า 80% เป็นพื้นที่ของอุทยานการเรียนรู้ และอีก 20% เป็นพื้นที่สำหรับช้อปปิ้งสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
"การเปิดตัว RubberLand จึงถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่จะทำให้ทุกคนได้มีความรู้เกี่ยวกับสินค้ายางพาราไทยมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งใหม่ล่าสุดของพัทยาแน่นอน เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงขอมอบของขวัญพิเศษให้คนไทยทุกคนได้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้" นายฐวัฒน์ กล่าว
RubberLand ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม. บนถนนสุขุมวิท พัทยากลาง นับเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมความมหัศจรรย์ของ "ยางพารา" พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ผ่านสื่อการเรียนรู้เพื่อความบันเทิงแบบโต้ตอบ (3D Mapping) ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาของคนไทยได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนศูนย์การเรียนรู้ แบ่งเป็น โซนป่ายาง, โซนแปรรูปยาง, โซนยางกับชีวิตประจำวัน, โซนมหัศจรรย์ยางพารา และโซนที่สองที่เป็นโซนจำหน่ายสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
ผู้สนใจสามารถเข้าชม RubberLand อุทยานการเรียนรู้เรื่องยางพารา ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อัตราค่าเข้าชม คนไทยราคา 100 บาท เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 ซม. ราคา 60 บาท ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. ไม่เสียค่าใช้จ่าย และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดอย่างเป็นทางการ คนไทยทุกคนสามารถเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้