“ปลัดพาณิชย์” เตือนผู้ส่งออก โรงสี อย่าคาดการณ์มั่ว ทำตลาดข้าวปั่นป่วนจนราคาตก ขู่หากยังไม่หยุดพฤติกรรมกอดคอกันตายจะงัดมาตรการกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำมาใช้ เพื่อดูราคาข้าวให้กับเกษตรกร ระบุขณะนี้ สต๊อกข้าวโลกลด ผลผลิตคู่แข่งลด แต่ความต้องการข้าวเพิ่ม ยันระบายสต๊อกไม่มีส่วนกดราคา เหตุข้าวคนละชนิดกัน เผยมี 33 รายยื่นตรวจคุณสมบัติประมูลข้าว 1 ล้านตัน
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และตัวแทนสมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาข้าวที่เกิดขึ้น โดยได้ขอความร่วมมือผู้ส่งออกข้าวและโรงสีให้หยุดพฤติกรรมที่จะทำให้ตลาดข้าวเกิดความปั่นป่วน เพราะที่ผ่านมามีการคาดการณ์สถานการณ์ตลาดไปในทางลบจนส่งผลกระทบต่อราคาข้าวปรับตัวลดลง และยังพบว่ามีพฤติกรรมการขายตัดราคากันที่ยิ่งสร้างผลกระทบต่อราคาข้าว ทั้งๆ ที่ปัจจัยภายนอกไม่มีแรงกดดันอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นสต๊อกข้าวโลก ผลผลิตข้าวของคู่แข่งที่มีแต่ลดลง ขณะที่ความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น โดยหากยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว กระทรวงฯ จะใช้มาตรการกำหนดราคาส่งออกข้าวขั้นต่ำมาใช้ เพื่อดูแลราคาข้าวในประเทศให้แก่เกษตรกร แต่ยืนยันว่าจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะดำเนินการ เพราะต้องการให้ราคาข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด
“ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปคาดการณ์สถานการณ์ข้าวในทิศทางเลวร้าย แต่ถ้ายังไม่ดี ยังกลัวผีจนเกินไป หรือยังจะกอดคอกันตายก็จะใช้มาตรการกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำมาใช้ เพราะตอนนี้ไม่มีสถานการณ์อะไรน่าสะพรึงกลัว จะไม่ยอมให้ชาวนาได้รับผลกระทบ”
ทั้งนี้ จากข้อมูลสต๊อกข้าวโลกพบว่า สต๊อกข้าวอินเดียลดลงจาก 25 ล้านตัน เหลือ 16 ล้านตัน เวียดนามลดเป้าส่งออกข้าวปีนี้จาก 6.5 ล้านตัน เหลือ 4.75 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียจะมีการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพราะผลผลิตในประเทศลดลง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเปิดระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลไม่ทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ เพราะเป็นคนละตลาดกัน เนื่องจากข้าวสต๊อกเป็นข้าวเก่า ขณะที่ข้าวในตลาดเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ซึ่งจะนำมาใช้เป็นเหตุอ้างว่าเพราะรัฐบาลระบายข้าวในสต๊อกจนส่งผลกดดันต่อราคาข้าวใหม่ไม่ได้ และการระบายข้าวก็ยืนยันว่าจะไม่มีการขายข้าวในราคาต่ำ หากเสนอราคาต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก็จะไม่อนุมัติขาย อีกทั้งการพิจารณาปริมาณในการนำข้าวออกมาประมูลทุกครั้ง ได้ดูจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวในตลาดอยู่แล้ว
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ส่วนผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 ที่กำลังทยอยออกมาในช่วงปลายปีนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนข้าวครบวงจรที่ได้จำกัดการเพาะปลูก โดยจะมีผลผลิตข้าวเปลือก 27.7 ล้านตัน ไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์ อีกทั้งรัฐบาลได้เตรียมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่ช่วงเพาะปลูก ช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด การลดต้นทุนการผลิต และมาตรการอื่นๆ เช่น การปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าว การดูแลหนี้สิน และการประกันภัยข้าว รวมทั้งหมด 17 โครงการ ใช้เงินผ่านมาตรการเหล่านี้หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยดูแลราคาข้าวให้กับเกษตรกร
วันเดียวกันนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้ภาคเอกชนที่สนใจประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เปิดเป็นการทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรม ปริมาณ 1 ล้านตัน ยื่นซองคุณสมบัติ โดยมีผู้มายื่นซองคุณสมบัติประมูลข้าวทั่วไป 20 ราย และเข้าอุตสาหกรรม 13 ราย โดยจะเปิดให้ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติยื่นซองเสนอราคาสำหรับข้าวทั่วไปวันที่ 29 ส.ค. และเข้าอุตสาหกรรมวันที่ 30 ส.ค.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ Mr.Ragendra Berta de Sousa รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าโมซัมบิก ได้เข้ามาหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องที่โมซัมบิกจะซื้อข้าวจากไทยในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เป็นข้าวขาว 5% และ 15% รวม 3 แสนตัน โดยได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ไปเจรจาในรายละเอียดแล้ว