ผู้จัดการรายวัน360 - “ปลัดพาณิชย์” ออกโรงโต้ “ปู” แอนด์เดอะแก๊ง ทำให้เกิดการเข้าใจผิด หลังแฉเอกสารลับประชุม นบข. ระบุไม่ต้องให้ความยุติธรรมในคดีจีทูจีเก๊และจำนำข้าวเจ๊ง แจงข้อเท็จจริง ประธาน นบข. สั่งการให้เร่งดำเนินการตรวจสอบความรับผิดทางละเมิดให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนประเด็นยุติธรรมไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ แต่เป็นอำนาจศาลเป็นผู้ชี้ขาด
ตามที่มีรายงานข่าวอ้างถึงเอกสารรายงานการประชุมลับของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดในคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวโดยประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ข้อสังเกตว่า ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม และมีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ เพื่อทำให้เกิดการเข้าใจผิด
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวชี้แจงในประเด็นนี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ นบข. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นรายงานการประชุมตามปกติ และประชุมตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2558 แต่ที่กำหนดให้เป็นวาระลับ เพราะเป็นเรื่องที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาที่ยังไม่ได้ข้อยุติจึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนั้น แต่ที่มีการนำมาเผยแพร่ในขณะนี้ เพราะไม่ได้เป็นวาระลับแล้ว เพราะการดำเนินการเลยขั้นตอนในช่วงนั้นมาแล้ว
โดยสาระสำคัญของการประชุมในครั้งนั้น คือ การรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดกรณีจำนำข้าวและการขายข้าวจีทูจี ซึ่งประธาน นบข. เร่งรัดให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อไม่ให้ขาดอายุความ และที่ประธานให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ
ดำเนินการสอบสวนโดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม มิใช่หมายความว่าไม่ต้องให้ความยุติธรรม แต่เป็นการพิจารณาในเรื่องความเสียหาย ก็ขอให้พิจารณาในเรื่องความเสียหาย ส่วนเรื่องประเด็นยุติธรรม มีการให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการฯ ชุดนี้
“มีการนำเอกสารไปเผยแพร่ เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะถ้าคนอ่านคร่าวๆ ก็เข้าใจผิดได้ จึงต้องออกมาชี้แจง เพราะการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด เป็นการหาข้อเท็จจริงว่าเกิดความเสียหายเท่าใด แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคณกรรมการฯ ที่จะต้องไปดูเรื่องความยุติธรรม เพราะไม่ใช่หน้าที่ โดยกระบวนการยุติธรรม เป็นหน้าที่ของศาล
และมีกฎหมายที่ดูแลอยู่แล้ว”น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมากล่าวว่า หน้าที่ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ จะดำเนินการประเมินความเสียหายและนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางในฐานะคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งในส่วนของกรณีการขายข้าวจีทูจี ขณะนี้ได้มีการคำนวณค่าเสียหายเสร็จแล้ว และอยู่ในกระบวนการที่รมว.พาณิชย์จะลงนามแจ้งหนังสือทางปกครองเพื่อให้ผู้ที่กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนกรณีจำนำข้าว ยังอยู่ระหว่างการประเมินค่าเสียหายของกระทรวงการคลัง ซึ่งหากดำเนินการเสร็จ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับประเด็นความยุติกรรม ยังมีอีกหลายขั้นตอน มิได้ยุติเพียงในชั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ และคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลังเท่านั้น เพราะผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกเรียกให้ชดใช้ความเสียหาย สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
และในขั้นต่อไปยังสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกเรียกให้ชดใช้ความเสียหายสามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสั่งให้ดำเนินการอย่างไม่ให้ความยุติธรรมตามที่เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวก่อนเข้าให้ปากคำกรณีที่ถูกกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่า พบเอกสารของ นบข. โดยประธาน นบข.
ให้ข้อสังเกตว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเร่งประเมินความเสียหายและส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาส่งฟ้อง มิฉะนั้น จะถือเป็นความบกพร่องของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี , กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ และจากนั้น ได้มีการนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย ทั้งทางไลน์ เฟซบุ๊ก โดยเฉพาะสื่อของคนเสื้อแดง จะมีการเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
ตามที่มีรายงานข่าวอ้างถึงเอกสารรายงานการประชุมลับของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดในคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวโดยประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ข้อสังเกตว่า ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม และมีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ เพื่อทำให้เกิดการเข้าใจผิด
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวชี้แจงในประเด็นนี้ว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ นบข. ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นรายงานการประชุมตามปกติ และประชุมตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2558 แต่ที่กำหนดให้เป็นวาระลับ เพราะเป็นเรื่องที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาที่ยังไม่ได้ข้อยุติจึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนั้น แต่ที่มีการนำมาเผยแพร่ในขณะนี้ เพราะไม่ได้เป็นวาระลับแล้ว เพราะการดำเนินการเลยขั้นตอนในช่วงนั้นมาแล้ว
โดยสาระสำคัญของการประชุมในครั้งนั้น คือ การรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดกรณีจำนำข้าวและการขายข้าวจีทูจี ซึ่งประธาน นบข. เร่งรัดให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อไม่ให้ขาดอายุความ และที่ประธานให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ
ดำเนินการสอบสวนโดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม มิใช่หมายความว่าไม่ต้องให้ความยุติธรรม แต่เป็นการพิจารณาในเรื่องความเสียหาย ก็ขอให้พิจารณาในเรื่องความเสียหาย ส่วนเรื่องประเด็นยุติธรรม มีการให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการฯ ชุดนี้
“มีการนำเอกสารไปเผยแพร่ เพื่อให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะถ้าคนอ่านคร่าวๆ ก็เข้าใจผิดได้ จึงต้องออกมาชี้แจง เพราะการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด เป็นการหาข้อเท็จจริงว่าเกิดความเสียหายเท่าใด แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคณกรรมการฯ ที่จะต้องไปดูเรื่องความยุติธรรม เพราะไม่ใช่หน้าที่ โดยกระบวนการยุติธรรม เป็นหน้าที่ของศาล
และมีกฎหมายที่ดูแลอยู่แล้ว”น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมากล่าวว่า หน้าที่ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ จะดำเนินการประเมินความเสียหายและนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางในฐานะคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งในส่วนของกรณีการขายข้าวจีทูจี ขณะนี้ได้มีการคำนวณค่าเสียหายเสร็จแล้ว และอยู่ในกระบวนการที่รมว.พาณิชย์จะลงนามแจ้งหนังสือทางปกครองเพื่อให้ผู้ที่กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนกรณีจำนำข้าว ยังอยู่ระหว่างการประเมินค่าเสียหายของกระทรวงการคลัง ซึ่งหากดำเนินการเสร็จ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับประเด็นความยุติกรรม ยังมีอีกหลายขั้นตอน มิได้ยุติเพียงในชั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ และคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลังเท่านั้น เพราะผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกเรียกให้ชดใช้ความเสียหาย สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
และในขั้นต่อไปยังสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกเรียกให้ชดใช้ความเสียหายสามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสั่งให้ดำเนินการอย่างไม่ให้ความยุติธรรมตามที่เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวก่อนเข้าให้ปากคำกรณีที่ถูกกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่า พบเอกสารของ นบข. โดยประธาน นบข.
ให้ข้อสังเกตว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเร่งประเมินความเสียหายและส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาส่งฟ้อง มิฉะนั้น จะถือเป็นความบกพร่องของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี , กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ และจากนั้น ได้มีการนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย ทั้งทางไลน์ เฟซบุ๊ก โดยเฉพาะสื่อของคนเสื้อแดง จะมีการเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก