ตามคาด! ครม.ไฟเขียวอนุมัติแต่งตั้ง “วิบูลย์ลักษณ์” ขึ้นแท่นปลัดกระทรวงพาณิชย์หญิงคนที่ 4 มีระยะเวลาในการทำงาน 1 ปีก่อนเกษียณ เผยช่วงเป็นอธิบดีกรมการค้าภายในรอบสอง โชว์ผลงานชัดเจนทั้งการดูแลเกษตรกร ค่าครองชีพ รักษาความเป็นธรรมทางการค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันนี้ (23 ส.ค.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติแต่งตั้งให้น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ แทน น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2559 ทำให้กระทรวงพาณิชย์มีปลัดกระทรวงเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นคนที่ 4 และไม่ถือว่าผิดความคาดหมายเพราะได้มีการวางตัวไว้ล่วงหน้ามานานแล้ว
ก่อนหน้านี้ได้มีการทาบทาม น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก (WTO) ให้กลับมาเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อที่จะรับช่วงเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์แทน น.ส.ชุติมา ที่ไปสมัครเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ตอนนั้น น.ส.ชุติมาไม่ได้รับการคัดเลือกก็เลยต้องรอให้ปลัดคนปัจจุบันเกษียณ และมีการแต่งตั้งในที่สุด
สำหรับ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ปัจจุบันอายุ 59 ปี จะมีเวลาทำงานในตำแหน่งปลัดกระทรวง 1 ปี ก่อนที่จะเกษียณในเดือน ก.ย. 2560 โดยประวัติการทำงานเติบโตมาในสายงานด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก เคยเป็นรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา, กรมการค้าต่างประเทศ, กรมการค้าภายใน จากนั้นเป็นที่ปรึกษาการพาณิชย์ ขยับขึ้นเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน และไปเป็นเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำ WTO และกลับมาเป็นอธิบดีกรมการค้าภายในอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เป็นอธิบดีกรมการค้าภายในครั้งที่ 2 ได้สร้างผลงานตามนโยบายรัฐบาลอย่างเด่นชัดทั้งในด้านการยกระดับราคาสินค้าเกษตรและคุณภาพชีวิตเกษตรกร การพัฒนาตลาดและดูแลราคาสินค้าเกษตร ปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรและสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด การดูแลความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้า การบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน เพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้า เพิ่มช่องทางในการระบายสินค้าให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร กระตุ้นการบริโภค หมุนเวียนการผลิตสินค้า และกระตุ้นการจ้างงานเพิ่มขึ้น และการดูแลธุรกิจให้มีการแข่งขันที่เสรีเป็นธรรม และป้องกันการผูกขาดตัดตอนทางการค้า
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่จะเร่งดำเนินการจะเน้นในเรื่องที่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกร ทั้งข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ การดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชน การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ การผลักดันการส่งออก รวมถึงการผลักดันนโยบายใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ที่จะมุ่งไปสู่การเป็น “พาณิชย์ 4.0” ตามนโยบายของนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ที่จะมีการปรับรูปแบบการทำงานให้เน้นทันต่อเหตุการณ์มากขึ้น
