ผู้จัดการรายวัน 360 - “นมวัวแดง” รุกตลาดนมออร์แกนิก ปั้นแบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค มอร์แกนิค” พร้อมพัฒนาฟาร์มใหม่ปีหน้าอีกกว่า 700 ไร่ เพิ่มโคนมอินทรีย์ ก่อนขยายตลาดประเทศพม่า
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า อ.ส.ค.มีแผนรุกตลาดนมพาสเจอไรซ์ออร์แกนิก 100% หรือพัฒนาฟาร์มโคนมอินทรีย์แห่งแรกของไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยเตรียมพัฒนาฟาร์มใหม่บนพื้นที่ 710 ไร่ ใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี คาดว่าจะมีแม่โคนมอินทรีย์ในฟาร์มไม่น้อยกว่า 50 ตัว ผลิตน้ำนมอินทรีย์ได้วันละกว่า 500 กก. รองรับความต้องการของตลาดมากขึ้น และถ้าเกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคนมเข้าสู่ระบบอินทรีย์อย่างแพร่หลาย คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าน้ำนมดิบสูงถึง 30%
ขณะนี้ได้ทดลองโครงการดังกล่าวแล้วด้วยการใช้ฟาร์มเดิมพื้นที่ 134 ไร่ มีโคนมอินทรีย์ 37 ตัว เป็นแม่โครีดนม 24 ตัว เลี้ยงดูแบบธรรมชาติ ผลิตน้ำนมดิบได้วันละ 250-300 กก. แบ่งสัดส่วน 30% ผลิตและจำหน่ายเองในชื่อ “ไทย-เดนมาร์ค มอร์แกนิค” จำนวน 600 กก.ต่อสัปดาห์ บรรจุขวด 200 มล. ราคา 40 บาทต่อขวด คิดเป็นจำนวนประมาณ 3 พันขวดต่อสัปดาห์
ส่วนอีก 70% หรือประมาณ 1.2 พัน กก.ต่อสัปดาห์ ราคา กก.ละ 28 บาท จำหน่ายให้ บริษัท บัตเตอร์ฟลาย จำกัด นำไปแปรรูปเป็นนมอินทรีย์พาสเจอไรซ์แบรนด์ “บัตเตอร์ฟลาย” จำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยทดลองจำหน่ายที่ฟาร์มนมไทย-เดนมาร์ค 3 สาขา และอื่นๆ เช่น ร้านดอยคำ, สหกรณ์ กฟผ., ลอว์สัน 108 ชอป, วิลล่า มาร์เก็ต และโกลเด้นเพลซ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายบางราย คาดรายได้เฉพาะนมอินทรีย์มอร์แกนิคประมาณ 2.5 ล้านบาท
สำหรับปี 2559 คาดว่าจะมีรายได้รวม 8.6 พันล้านบาท เติบโต 7% ขณะที่ตลาดรวมเติบโต 10% โดย อ.ส.ค.ผลิตได้ 575 ตันต่อวัน และจะเพิ่มเป็น 600 ตันต่อวันในปี 2560 ปัจจุบันไทย-เดนมาร์คเป็นผู้นำตลาด 48% ในแง่ปริมาณตลาดรวม และเป็นอันดับที่สองในแง่มูลค่ารองจาก “โฟร์โมสต์” โดยสัดส่วนรายได้หลักคือ นมยูเอชที 95% เติบโต 12% ส่วนที่เหลือ 5% เป็นนมเย็น คาดว่าจะเพิ่มเป็น 7-10% ในปี 2560 เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น 3 เท่า
อ.ส.ค.ยังจะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นจากสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 900 ล้านบาทในปี 2559 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.2 พันล้านบาทในปี 2560 โดยรายได้หลักมาจากกัมพูชา 80% ล่าสุดจะขยายตลาดพม่าหลังจากได้แต่งตั้งเอเยนต์แล้ว 2 ราย
