“บ้านปู” ลดเป้าหมายการขายถ่านหินลง 7 แสนตัน เหลือเพียง 45.4 ล้านตันในปีนี้ หลังเหมืองถ่านหินที่อินโดฯ ประสบปัญหาฝนตกหนัก รวมทั้งหันมาซื้อถ่านหินแหล่งอื่นมาผสมเพื่อเพิ่มมาร์จิน ขณะที่ราคาถ่านหินครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยับขึ้นสูงกว่า 67เหรียญสหรัฐ/ตัน มั่นใจทั้งปีกำไรโต
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้าหมายปริมาณขายถ่านหินลงจากเป้าหมายเดิม 7 แสนตัน เนื่องจากเหมืองที่อินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่มีมาก รวมทั้งบริษัทมีการซื้อถ่านหินจากเหมืองอื่นมาผสมเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้ทั้งปีปริมาณขายถ่านหินจะอยู่ที่ 45.4 ล้านตันเท่ากับปีที่แล้ว โดยปริมาณการผลิตถ่านหินที่ลดลงไปนั้นเป็นถ่านหินคุณภาพต่ำ แต่มีอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น
ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจุบันราคาตลาดอยู่ที่ 67 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นราคาที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 30% สาเหตุที่ทำให้ราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากจีนได้มีการควบคุมการผลิตถ่านหินลง ทำให้ซัปพลายถ่านหินลดลงในปีนี่ 15 ล้านตัน แต่จีนมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่อินโดนีเซียก็มีปริมาณการผลิตถ่านหินลดลง 15 ล้านตันจากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านปูมีปริมาณถ่านหินที่รอการขายเพียง 23% ทำให้ไม่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก ส่งผลให้ปีนี้ราคาขายถ่านหินบ้านปูเฉลี่ยอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าปีก่อนที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 56 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่บริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้บริษัทมีกำไรดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิอย่างแน่นอน
ในครึ่งแรกของปี 2559 โครงการโรงไฟฟ้าหงสายูนิตที่ 3 ในประเทศลาว ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายเข้าสู่ประเทศไทยตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขาย (PPA) เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 12.87 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 2/2559 ด้านโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวงในประเทศจีน กำลังผลิตติดตั้งรวม 1,320 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2560
ส่วนความคืบหน้าในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ล่าสุด บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้มาซึ่งหุ้นทั้งหมดในโครงการฮุ่ยเหนิงแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นในโครงการจินซาน โครงการเฮ่าหยวน และโครงการฮุ่ยเอิน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการดังกล่าวในมณฑลซานตง ประเทศจีน มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 90 เมกะวัตต์ โดยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 70 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการจินซาน โครงการฮุ่ยเหนิง และโครงการเฮ่าหยวน ส่วนโครงการฮุ่ยเอิน จำนวน 20 เมกะวัตต์จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/2559 ขณะที่โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอีก 8 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน 74.4 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมี 2 โครงการที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว คือ โครงการโอลิมเปีย และโครงการฮิโนะ คิดเป็น 6.6 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2560-2561
ส่วนการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 4/2559