“เซ็นทรัล” เพิ่มพอร์ตโฟลิโอในเวียดนาม

ผู้จัดการรายวัน360 - นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลและธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลเวียดนาม เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างมากเช่นเดียวกับในยุโรปและไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนมาแล้วประมาณ 6 ปีด้วยการตั้งกลุ่มเซ็นทรัลเวียดนามขึ้นมาและธุรกิจต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนเวียดนาม

ปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลมีธุรกิจในเวียดนามที่หลากหลายและยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยมีแผนลงทุนชัดเจน ทั้งบิ๊กซี, โรบินส์, ซูเปอร์สปอร์ต เป็นต้น ทั้งยังมองไปถึงธุรกิจใหม่ๆ อื่นๆ อีกที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม ทั้งในแง่ของการร่วมทุนหาพาร์ทเนอร์และการซื้อกิจการ เช่น ธุรกิจศูนย์การค้า และธุรกิจโรงแรม ซึ่งขณะนี้มีแต่การรับบริหารโรงแรมแห่งเดียวชื่อ “แซนดี้ บีช” ที่ดานัง

ธุรกิจที่ทำแล้วคือ ร้าน “ซูเปอร์ สปอร์ต” และร้านรองเท้ากีฬาต่างๆ ปัจจุบันมี 26 สาขา แบ่งเป็น “ซูเปอร์ สปอร์ต” 11 สาขา ร้าน “คร๊อกส์” 9 สาขา ร้าน “นิว บาลานซ์ฎ 5 สาขา และร้าน “สปีโด้” 1 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้าโรบินส์ก็เปิดต่อเนื่อง ขณะนี้มี 2 สาขาคือที่ ฮานอยที่ศูนย์การค้ารอยัลซิตี้ และโฮจิมินห์ซิตี้ ขณะที่ธุรกิจของ “เหงียนคิม” ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า จะขยาย 4-5 สาขาต่อปี ส่วนร้าน “มาร์กแอนด์สเปนเซอร์”มีแล้ว 1 สาขาที่โฮจิมินห์ซิตี้

ขณะเดียวกันลานชีมาร์ทซึ่งเป็นดิสเคานต์ซูเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่ 1,500-2,000 ตารางเมตร มีแผนจะเปิดประมาณ 5 สาขาปีนี้ แต่คาดว่าคงเปิดได้ 7 สาขา โดยขณะนี้มี 14 สาขาแล้วจะเน้นทำเลอยู่รอบนอกฮานอย ไม่มีของสดจำหน่าย แตกต่างกับ “ท็อปส์” ที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีของสดและจะเน้นทำเลในเมือง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเวียดนามยังมีปัญหาโดยเฉพาะในเรื่องกฎหมาย เช่น การจะเปิดสาขามีข้อจำกัดที่จะต้องผ่านเรื่อง อีเอนที หรือ Economic Need Test (ENT) คือก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติให้มีการลงทุนอะไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องพิจารณาดูว่าธุรกิจที่จะไปเปิดนั้นมีความจำเป็นต่อชุมชนหรือไม่และชุมชนนั้นมีความต้องการหรือไม่ ทั้งยังจะกระทบต่อชุมชนหรือไม่

ส่วน “บิ๊กซี” มีแผนจะเปลี่ยนชื่อแน่นอนแต่ยังไม่สรุปชื่อใหม่ หลังจากที่ร่วมกับกลุ่มเหงียนคิมซื้อกิจการบิ๊กซีในเวียดนาม มูลค่า 920 ล้านยูโร เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 43 สาขาแบ่งเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ต 33 สาขาและคอนวีเนียนสโตร์ 10 สาขา ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม เข้าซื้อกิจการ “ซาโลร่า” ซึ่งเป็นผู้นำเว็บไซต์ขายสินค้าแฟชั่นออนไลน์ในเวียดนามและไทย

ด้าน นายทศ จิราธิวัฒน์ ซีอีโอของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า แนวทางการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัลเน้นที่ประเทศเวียดนามเป็นหลัก เพราะมีประชากรประมาณ 90 ล้านคนและเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงประมาณ 60% ซึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจของเวียดนามมีขนาดเพียง 10% ของประเทศไทย และเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีขนาดเป็น 30% ของเศรษฐกิจไทย ปัจจุบันเศรษฐกิจของเวียดนามมีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของไทย และคาดว่าจะเติบโตทัดเทียมกันภายในอีก 10 ปี

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม กล่าวว่า ไตรมาสสองปี 2559 จีดีพีของไทยอยู่ที่ 425 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เวียดนามอยู่ที่ 194 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ยปีละ 7% สูงกว่าไทย