“พาณิชย์” คาดไทยเข้าร่วมทีพีพีไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ ให้รัฐบาลหลังเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจ

“พาณิชย์” คาดไทยเข้าร่วมทีพีพีไม่ทันช่วงรัฐบาลชุดนี้ ให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจ เหตุต้องรอให้สมาชิกเดิม 12 ประเทศให้สัตยาบันบังคับใช้ทีพีพีก่อน แล้วถึงจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาหากตกลงเข้าร่วม

นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ของไทย ว่าไทยยังพอมีเวลาในการศึกษาที่จะสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีพีพีจนถึงประมาณปี 2560 ซึ่งเป็นเวลาครบ 2 ปีพอดีที่ประเทศสมาชิกทีพีพีทั้ง 12 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก ชิลี เปรู ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม จะลงนามให้สัตยาบันต่อความตกลงทีพีพี และมีผลบังคับใช้ รวมถึงยังต้องมีกระบวนการภายในของประเทศสมาชิก

“ในช่วงเวลาที่เหลือนี้ ไม่ว่าไทยจะเข้าร่วมทีพีพีหรือไม่ ไทยก็ต้องเตรียมความพร้อม เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกทำให้ไทยต้องปรับตัวเองอยู่แล้ว และทีพีพีเป็นกติกาการค้าการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะมีผลกระทบมาถึงไทยในอนาคต”

ทั้งนี้ แม้ว่าไทยจะสมัครเข้าเป็นสมาชิก ไม่ใช่ว่าเขาจะรับเลย เขาต้องดูว่าไทยพร้อมหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วก็ต้องมีการเจรจา แต่ถ้าเห็นว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องเข้า โดยคาดว่ารัฐบาลนี้คงไม่ทัน ต้องเป็นรัฐบาลใหม่ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าไทยจะสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีพีพีหรือไม่

นายวินิจฉัยกล่าวว่า การดำเนินการที่ผ่านมาเกี่ยวกับทีพีพีของไทย คณะอนุกรรมการศึกษาความพร้อมของไทยต่อทีพีพี ที่มีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้ประชุมมา 2 ครั้งแล้ว มีมติให้ไทยเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นสมาชิก โดยต้องปรับกฎระเบียบ กติกาการค้าการลงทุนของไทยให้ทันสมัยเทียบเท่ามาตรฐานของสากล

ส่วนผลการศึกษาทีพีพีของสถาบันปัญญาภิวัฒน์ ที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ว่าจ้าง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจรับรายงานซึ่งกำลังเร่งดำเนินการ และสำนักงานของกระทรวงพาณิชย์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ยังได้ว่าจ้างเอกชน บริษัท แคปิตอล เทรด (Capital Trade) ทำการศึกษาทีพีพี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเผยแพร่สู่สาธารณะในประเทศได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ โดยกรอบผลการศึกษามีทั้งทางด้านการการค้าสินค้า การลงทุน และทรัพย์สินทางปัญญา

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคเกษตร และภาครัฐ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่เดือน ต.ค. 2558 จนถึงปัจจุบัน และยังมีแผนที่จะลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็นอีก

สำหรับประชาชน หรือผู้สนใจจะแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ ต่อความตกลงทีพีพี สามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ www.dtn.go.th หรือค้นหาคำสำคัญว่า tppdtn เพื่อแสดงความคิดเห็น ซึ่งภาครัฐจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแนวทางของไทยต่อความตกลงทีพีพีต่อไป