นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาความพร้อมของไทยต่อทีพีพี ได้มอบหมายให้รับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน เพื่อนำมาประกอบการศึกษาวิเคราะห์ผลดีและผลเสียของการดำเนินงานภายใต้ทีพีพี โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้มีแผนรับฟังความเห็น รวมทั้งข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง โดยเจาะลึกรายสาขาทั้งส่วนกลางและทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นายวินิจฉัย กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคเกษตร และภาครัฐ มีประเด็นสำคัญ อาทิ การเปิดตลาดสินค้า กฎถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการทางการค้า การคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ การขึ้นทะเบียนตำรับยา การคุ้มครองสิทธิบัตร สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับนักลงทุน แรงงาน และสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้แทนจากภาคประชาสังคมและนักวิชาการเข้าร่วมหารือรอบด้าน อาทิ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เครือข่ายมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เสนอแนะให้มีการศึกษารายละเอียดของความตกลงอย่างรอบคอบ รวมถึงประเมินผลกระทบ และผลประโยชน์ที่ทุกภาคส่วนจะได้รับทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
นอกจากนี้ เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการเกษตรให้ความรู้กับเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึงเกี่ยวกับผลกระทบและมาตรการเยียวยา รวมทั้งการเตรียมความพร้อมต่อความตกลงทีพีพี สำหรับมาตรการควบคุมยาสูบไม่ถือเป็นข้อกังวลของภาคประชาสังคมไทย เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นภายใต้ความตกลงทีพีพีและสอดคล้องกับกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)
นายวินิจฉัย กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคเกษตร และภาครัฐ มีประเด็นสำคัญ อาทิ การเปิดตลาดสินค้า กฎถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการทางการค้า การคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ การขึ้นทะเบียนตำรับยา การคุ้มครองสิทธิบัตร สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับนักลงทุน แรงงาน และสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้แทนจากภาคประชาสังคมและนักวิชาการเข้าร่วมหารือรอบด้าน อาทิ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เครือข่ายมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เสนอแนะให้มีการศึกษารายละเอียดของความตกลงอย่างรอบคอบ รวมถึงประเมินผลกระทบ และผลประโยชน์ที่ทุกภาคส่วนจะได้รับทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
นอกจากนี้ เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการเกษตรให้ความรู้กับเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึงเกี่ยวกับผลกระทบและมาตรการเยียวยา รวมทั้งการเตรียมความพร้อมต่อความตกลงทีพีพี สำหรับมาตรการควบคุมยาสูบไม่ถือเป็นข้อกังวลของภาคประชาสังคมไทย เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นภายใต้ความตกลงทีพีพีและสอดคล้องกับกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)