xs
xsm
sm
md
lg

จีนอีกแล้ว! กรมพัฒน์เพิกถอน 3 บริษัทท่องเที่ยว หลังพบพบสวมบัตรคนไทยแอบทำธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กรมพัฒน์” สั่งเพิกถอน 3 บริษัทนำท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันที หลังพบเป็นคนจีนสวมบัตรประชาชนคนไทย ตบตาประกอบธุรกิจ เตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป ยันเดินหน้าตรวจสอบต่อเนื่อง ย้ำหากพบคนไทยช่วยเหลือหรือสนับสนุน เจอคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวชื่อดัง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด, บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด และบริษัท เซี๊ยต้าเจริญ จำกัด หลังตรวจสอบพบบุคคลต่างชาติสวมบัตรประจำตัวประชาชนชาวไทยดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้ทั้ง 3 บริษัทสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลทันที ไม่สามารถประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลได้อีก และจะดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวข้างต้นต่อไปด้วย

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ผสานกำลังเข้าตรวจสอบบริษัท ฝูอัน ทราเวล และบริษัท ซินหยวน ทราเวล พบว่า มีคนจีนสวมบัตรประชาชนคนไทย คือ นายสมเกียรติ คงเจริญ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แล้วมาเปิดบริษัทนำเที่ยว โดยเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใน 2 บริษัทดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังสามารถขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ได้แก่ นางธวัล แจ่มโชคชัย คนไทย ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ฝูอัน ทราเวล ที่มีส่วนให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มบุคคลต่างชาติ ซึ่งเป็นคนจีนมารสวมบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย คือ นายภูวดล สุขเจริญ และนายธนากฤต รินรัตน์ และได้ประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ให้กับบริษัท ฝูอัน ทราเวล

นอกจากนี้ กรมฯ ได้ขยายผลตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกทางทะเบียนนิติบุคคล พบว่า ชาวต่างชาติที่เข้าสวมบัตรประจำตัวประชาชนของนายธนากฤต มีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 1 บริษัท คือ บริษัท เซี๊ยต้าเจริญ ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว ได้แก่ จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สมุนไพร

“ช่วงที่ตรวจสอบเจอตอนแรก กรมฯ ได้ทำการระงับการจดทะเบียน (การแก้ไข/เปลี่ยนแปลงข้อมูล) ของนิติบุคคลทั้ง 3 บริษัทที่มีบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้อง และระงับการออกหนังสือรับรองและสำเนาเอกสาร รวมทั้งเรียกตรวจสอบบัญชีไปแล้ว แต่พอกรมการปกครอง ได้มีหนังสือแจ้งการเพิกถอนบัตรประจำตัวประชาชนนายสมเกียรติ คงเจริญ นายธนากฤต รินรัตน์ และนายภูวดล สุขเจริญ มาให้ทราบ กรมฯ จึงได้ดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทจำนวน 3 บริษัททันที” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะจับมือกับหน่วยงานพันธมิตรดังกล่าวข้างต้น ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจกลุ่มเสี่ยง โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดแก่ธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจ

“กรมฯ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือถือหุ้นแทนชาวต่างชาติเพื่อให้คนต่างชาติสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งคนต่างชาติที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน รวมทั้งกรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดด้วย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 1-5 หมื่นบาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น