xs
xsm
sm
md
lg

จับตานักลงทุนจีนสนลงทุนรถไฟฟ้า EV แต่ผู้ผลิตใน ปท.ถามรัฐเร็วไปมั้ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จับตานักลงทุนจีนสนใจลงทุนรถไฟฟ้า EV ในไทย หลังรัฐเตรียมเปิดนำเข้าทดลองนำร่องพร้อมเสนอแผนลงทุน ขณะที่ค่ายรถในประเทศแนะให้รัฐค่อยเป็นค่อยไปหนุนให้เกิดไฮบริดก่อน ด้าน ส.อ.ท.แนะค่อยเป็นค่อยไปแต่เน้นจุดยืนต้องให้ความสำคัญต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ




นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แผนส่งเสริมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Electric Vihede) ขณะนี้ภาคเอกชนได้ทำงานร่วมกับรัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันหลายฝ่ายมีการตื่นตัวในเรื่องนี้สูงแต่เห็นว่าแนวทางการพัฒนายังต้องค่อยเป็นค่อยไป และได้เสนอรัฐให้ความสำคัญเรื่องของการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นสำคัญเพื่อการพัฒนา อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่กระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยหากจะต้องก้าวสู่รถ EV จึงได้มอบหมายให้กลุ่มชิ้นส่วนฯ ส.อ.ท.ไปศึกษาแนวทางรองรับ เช่น ถังน้ำมัน ซึ่งหากเป็น EV จะกระทบแน่นอน

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูล รองประธาน ส.อ.ท. และในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายก็มีความเห็นในรายละเอียดต่างกันไป แต่ส่วนโตโยต้ามองว่าการจะมีรถไฟฟ้าEVอนาคตอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่เร็วอาจจะเร็วไปหน่อย ขณะนี้จำเป็นต้องมองความพร้อมสถานีชาร์จ มีข้อจำกัดในการวิ่งโดยเฉพาะเมื่อรถติดระยะทางที่จะวิ่งได้ก็ลดลง ขณะเดียวกันปัจจุบันราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับต่ำ

“แบตเตอรี่ยังมีข้อจำกัดโอกาสที่จะไปนอกเส้นทางที่ไม่มีสถานีชาร์จก็จะยาก และการชาร์จไฟใช้เวลาขนาดแบบเร็วหรือควิกชาร์จก็ครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเรามองว่ารถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ซึ่งเป็นการทำงานระหว่างมอเตอร์ แบตเตอรี่ และเครื่องยนต์ซึ่งใช้งานได้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าในระยะแรกน่าจะเกิดก่อน เพราะจะสามารถพัฒนาไปสู่รถไฟฟ้าได้ (EV) ” นายศุภรัตน์กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากการหารือกับเอกชนยอมรับว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV-Electric Vihede) ของรัฐบาลที่มีแนวคิดให้มีการนำร่องนำเข้ารถEV ประมาณ 5,000 คันเข้ามาจำหน่ายด้วยการยกเว้นภาษีนำเข้าให้ แต่มีเงื่อนไขจะต้องเสนอแผนลงทุนภายในประเทศว่าเป็นอย่างไรและใช้ชิ้นส่วนในประเทศเท่าใด จะมีสถานีชาร์จรองรับหรือไม่ โดยพบว่าผู้ที่แสดงความสนใจลงทุนล่าสุดเป็นนักลงทุนจากจีนเป็นส่วนใหญ่ เช่น เซินเจิ้น วูซูล่ง มอเตอร์ กรุ๊ป เป็นต้น

ส่วนค่ายรถในไทยต่างมองว่ายังต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเห็นว่าควรจะส่งเสริมแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะค่ายโตโยต้าที่เสนอให้รัฐลดภาษีสรรพสามิตรถไฮบริดให้เหลือ 0% จากขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 20% เพื่อทำให้ราคาลดลงในการจูงใจการผลิตและจำหน่าย ซึ่งคาดว่าโตโยต้าจะเสนอแนวทางและแผนลงทุนไฮบริดในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น