“คนร.” เร่ง “คมนาคม” สรุปแผนปฏิรูปรถเมล์โอนให้ ขบ.กำกับ ส่วน ขสมก.ทำหน้าที่เดินรถอย่างเดียว ด้าน “ออมสิน” คาดเสนอ ครม.ยกเลิกมติ 11 ม.ค. 26 ได้ในเดือน ก.ค.นี้ จ่อเสนอใช้ ม.44 บริหารสัญญาเป็นกรณีพิเศษช่วงถ่ายโอนเพื่อความเป็นธรรม เหตุสัญญารถร่วมฯ หมดอายุไม่พร้อมกัน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างประมวลข้อมูลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2526 ที่ให้ ขสมก.เป็นผู้เดินรถเพียงรายเดียว และรถร่วมฯ เอกชนจะต้องทำสัญญาเข้าร่วมเดินรถกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อสร้างความชัดเจนในบทบาทและแนวทางกำกับดูแลการเดินรถโดยสารในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกำหนดบทบาทให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้เป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) และให้ ขสมก.เป็นเพียงผู้ให้บริการเดินรถ (Operator) รายหนึ่งเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยจะสรุปกรอบแผนเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 59 ที่ผ่านมาได้รับทราบความคืบหน้าแล้ว โดยนายกฯ ระบุว่าการถ่ายโอนสัญญาของรถร่วมบริการเอกชนจาก ขสมก. มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมการขนส่งฯ หากมีข้อติดขัดและต้องการให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย ให้นำเสนอไปได้
“กรมการขนส่งฯ จ้างที่ปรึกษาศึกษาเป็นการปฏิรูประบบการขนส่งมวลชนในส่วนของรถโดยสารสาธารณะทั้งระบบ โดยการปรับปรุงเส้นทางการเดินรถเมล์ให้มีประสิทธิภาพ เช่น สาย 8 วิ่งจากสะพานพุทธ-สวนสยาม ระยะทางประมาณ 50 กม. จัดสัญญาใหม่เป็น สะพานพุทธ-อนุสาวรีย์ชัยฯ 1 สัญญา และจากอนุสาวรีย์ฯ-สวนสยาม อีก 1 สัญญา เป็นต้น ซึ่งที่ปรึกษาจะส่งรายงานการศึกษาปลายเดือน ก.ย. 59 ซึ่งระหว่างนี้แนวทางหลายเรื่องชัดเจนแล้ว ดังนั้นจะเสนอ ครม.ยกเลิกมติเดิมก่อนเพื่อทยอยดำเนินการ”
สำหรับการถ่ายโอนสัญญาเดินรถร่วมบริการเอกชนไปยัง ขบ.ซึ่งมีหลายร้อยสัญญานั้น เบื้องต้นแต่ละราย แต่ละเส้นทางจะหมดสัญญาไม่พร้อมกัน จึงเห็นว่าหากสัญญาใดหมดอายุควรจะโอนไปอยู่กับ ขบ. และทำสัญญากันใหม่ ซึ่ง ขบ.จะพิจารณาอายุสัญญาที่เหมาะสม จากเดิมที่จะโอนกันในช่วงปี 2561 เพราะเห็นว่าสัญญาส่วนใหญ่จะหมดในช่วงนั้นมาก ซึ่งเกรงจะล่าช้าและงานจะไม่สำเร็จในรัฐบาลนี้
แหล่งข่าวจาก ขบ.กล่าวว่า เมื่อมีการยกเลิกมติ ครม.เดิม ขบ.จะเป็นผู้กำกับ กำหนดมาตรฐานต่างๆ ของรถ และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงปรับปรุงเส้นทางรถเมล์ใหม่ ส่วนสัญญาเดินรถ และใบอนุญาตต่างๆ ที่รถร่วมฯ ทำไว้กับ ขสมก. ซึ่งแต่ละสัญญาจะหมดอายุไม่พร้อมกัน ดังนั้นช่วงรอยต่ออาจมีความจำเป็นจะต้องใช้ ม.44 เพื่อบริหารจัดการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้รายเดิมไม่เสียสิทธิ์และได้รับความเป็นธรรม โดยกำหนดอายุของใบอนุญาตเดินรถเป็นแบบชั่วคราว 6 เดือน หรือ 1 ปี และไม่มีปัญหาในอนาคต เนื่องจากจะมีการปรับเส้นทางใหม่ ซึ่งอาจจะเปิดประมูลหาผู้ประกอบการ
