ร.ฟ.ท.เปิดตัวรถโดยสารรุ่นใหม่ ชุดแรก 39 คัน พร้อมจัดบริการระดับเฟิสต์คลาส สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเทียบชั้นเครื่องบิน ห้องน้ำไม่เหม็น “ออมสิน” สั่งให้ข้อมูลประชาชน เชื่อผู้โดยสารต้องเพิ่มแน่ คาดโกยรายได้เพิ่มปีละกว่า 1 พันล้าน “วุฒิชาติ” เผยเตรียมปรับปรุงรถเก่า 10 ปี เป็นโฉมใหม่ยกระดับบริการ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดพิธีเปิดตัวรถโดยสาร สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ (Passenger Coach Set) ชุดแรกจำนวน 39 คัน จากทั้งหมด 115 คัน ซึ่งเป็นรถโดยสารรุ่นใหม่ที่ร.ฟ.ท.ได้สั่งซื้อจากบริษัท CRRC Corporation Limited จำกัด (China Railway Rolling Stock Corporation) วงเงินรวม 4,668.89 ล้านบาท โดยมีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พร้อมด้วยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท., Ms.Zhang peidong ทูตพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้แทนกิจการร่วมค้า BBC ร่วมในพิธีเปิดตัวรถโดยสาร
นานออมสินกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการลงทุนพัฒนาระบบรางอย่างมาก โดยเฉพาะรถไฟนั้นเป็นครั้งแรกที่มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำมาก่อนเพื่อพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ในปีนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 2 เส้นทาง และอยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคาอีก 4 เส้นทาง และในปี 2560 จะมีเพิ่มอีก 8-10 เส้นทาง นอกจากนี้ยังมีการลงทุนเพื่อจัดหารรถโดยสารรุ่นใหม่ 115 คัน และรถสินค้าอีก 308 คันอีกด้วย
โดยวันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ ร.ฟ.ท. โดยได้รับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัย สะดวก สะอาด สวยงาม มีห้องน้ำเป็นระบบปิด และมีสำหรับคนพิการ มีระบบไวไฟ สามารถสั่งอาหารจากในห้องพักบนขบวนรถได้ มีจอทีวี โดยค่าโดยสารในช่วงแรกไม่มีการปรับเพิ่มแต่อย่างใด ขณะนี้รับมาแล้ว 39 ตู้ หรือ 3 ขบวน และจะรับมอบครบทั้ง 115 ตู้จะส่งมอบครบในเดือน ต.ค. 2559 และในเดือน ธ.ค.2559 จะบรรจุรถทั้งหมดเข้าประจำการให้บริการใน 4 เส้นทาง รวม 8 ขบวน
“จุดแข็งในการแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) นั้น บริการรถไฟ หรือรถ บขส. ต้องบอกว่าจะมีจุดแข็งและกลุ่มลูกค้าของตัวเองที่ใช้บริการประจำและต่อเนื่อง และวันนี้เมื่อรถไฟมีขบวนรถใหม่ที่ดีมาก ยิ่งเชื่อว่าจะจูงใจให้ที่ผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้ ร.ฟ.ท.ต้องให้ข้อมูลต่อประชาชนว่าวันนี้มีบริการใหม่ๆ ที่ดีอย่างไร” นายออมสินกล่าว
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปี 2559 จะเป็นจุดเปลี่ยนโฉมใหม่ที่มีตู้โดยสารใหม่ซึ่งจะสามารถเพิ่มขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ได้ สอดคล้องกับการปรับปรุงเสริมความแข็งแรงของทางและรางรถไฟ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ซึ่งทั้ง 6 เส้นทางจะแล้วเสร็จในปี 2562-2563 จะทำให้ความจุของทางเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า เพิ่มขบวนรถได้จากวันละ 200 กว่าขบวน เป็น 400-500 ขบวน
โดยตามแผนรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คันนี้ จะนำมาให้บริการ 2 เส้นทางแรกก่อนในเดือน ก.ย. 2559 คือ กรุงเทพ-เชียงใหม่ และกรุงเทพ-อุบลราชธานี ซึ่งประเมินว่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มช่วงแรก 30 ล้านบาทต่อเดือน และจะเปิดอีก 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพ-หนองคาย และกรุงเทพ-หาดใหญ่ ในปี 2560 วันละ 2 ขบวน/เส้นทาง รวม 8 ขบวน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณปีละ 1.073 ล้านคน สร้างรายได้เพิ่มเฉลี่ยปีละ 1,250.9 ล้านบาท
ส่วนรถเดิมที่มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี จะนำไปปรับปรุง แล้วนำกลับมาให้บริการใหม่ และในอนาคตสำหรับรถโดยสารรุ่นใหม่นี้ มีระบบการทำงานและการอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โดยในส่วนรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้น 1 (เฟิสต์คลาส) มี 24 ที่นั่ง 12 ห้อง ติดตั้งจอแอลซีดีทุกที่นั่ง และช่องเสียบ USB ชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อใช้เป็นช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารของการรถไฟฯ ถึงผู้โดยสาร รวมถึงรวบรวมรายการบันเทิงชั้นนำ ตลอดการเดินทาง ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารยังใช้ช่องทางนี้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟ เช่น สั่งอาหารได้จากที่นั่งทันที
ขณะที่รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้น 2 ติดตั้งจอแอลซีดีขนาดใหญ่ 4 จอ ใช้แจ้งข้อมูลข่าวสารให้ผู้โดยสาร เช่น การแจ้งเตือนระยะเวลาถึงสถานีปลายทาง ข้อมูลข่าวสารอื่นๆ เช่นเดียวกับป้ายบอกข้างตัวรถ เป็นระบบดิจิตอลสำหรับบอกชื่อสถานี ห้องน้ำระบบปิดสูญญากาศ มีความทันสมัยเท่ากับห้องน้ำบนเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังนำระบบรถ Power Car มาใช้จ่ายไฟให้รถโดยสารทั้งขบวน ทดแทนระบบเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ในรถโดยสารทุกคัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์แล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานได้ถึงร้อยละ 13
ทั้งนี้ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบตลอดทั้งคัน การติดตั้งระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรกเอบีเอส ระบบอัตโนมัติ แจ้งเตือนการปิดประตูรถไม่สนิทก่อนขบวนออกจากสถานี รวมถึงการทำทางเชื่อมระหว่างตู้โดยสารบนขบวนรถ ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างข้อต่อขบวน และยังมีบริการตู้โดยสารสำหรับผู้พิการและผู้สูงวัย โดยมีลิฟต์สำหรับยกรถวีลแชร์ รวมถึงบริการวีลแชร์สำรองให้ใช้อีกด้วย
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้วางแผนการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ มีการจำหน่ายตั๋วผ่านช่องการขายในระบบ Online Automatic Electronic Ticket และจัดทำบัตรสมาชิกสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการเดินทางกับขบวนรถพิเศษ (SRT's Club) เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารบริการใหม่ๆ เป็นต้น
