ผู้จัดการรายวัน 360 - “เทสโก้ โลตัส” ยันธุรกิจในไทยเดินหน้าต่อปกติ ไม่มีผลต่อกรณี “เบร็กซิต” ของอังกฤษ พร้อมรุกหนักชอปปิ้งออนไลน์ ผุด 4 บริการใหม่หวังดูดลูกค้า เผยชอปปิ้งออนไลน์สั่งซื้อมากกว่าในสโตร์เกือบ 4 เท่า
นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการ ฝ่ายกิจการบรรษัท “เทสโก้ โลตัส” บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารเครือข่ายค้าปลีก “เทสโก้ โลตัส” กล่าวว่า จากกรณีที่อังกฤษออกจากอียูยังไม่มีผลอะไรต่อ “เทสโก้ โลตัส” ต้อง “เวต แอนด์ ซี” (Wait and See) ระยะสั้นยังไม่มีอะไรจะพูด ส่วนระยะยาวไกลเกินกว่าที่จะบอกได้ เพราะต้องรอดูนโยบายบริษัทแม่ก่อน โดยยังคงทำธุรกิจปกติในไทยและมีการส่งออกสินค้าไปยังเครือข่ายเทสโก้ที่อังกฤษและยุโรปเหมือนเดิม
ด้าน นางวรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจออนไลน์ “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยว่า ปี 2559 บริษัทฯ ได้เปิดตัว 4 บริการใหม่ทางด้านออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าและเป็นการรุกตลาดออนไลน์อย่างเต็มที่ ซึ่งยอมรับว่าช่วงนี้เป็นช่วงของการลงทุนเพื่ออนาคต หลังจากที่ลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดชอปปิ้งออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2555
“ธุรกิจออนไลน์ของเรา สัดส่วนรายได้ยังน้อยไม่เกิน 3% เท่านั้น ตอนนี้ลูกค้าซื้อผ่านออนไลน์ 3 ครั้งต่อเดือน มูลค่าการซื้อต่อบิลมากกว่า 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับการซื้อในสโตร์ และเราเองก็โยกงบฯ สื่ออื่นมาใช้ในการตลาดออนไลน์มากขึ้นด้วย เพื่อรักษาความเป็นผู้นำชอปปิ้งออนไลน์ในไทย”
ทั้งนี้ 4 บริการใหม่ คือ 1. ShopBox24 ชอปปิ้งออนไลน์แล้วรับของที่ตู้ล็อกเกอร์โดยพันธมิตรหลักคือ “ซินไฉฮั้ว” เน้นทำเลคอนโดมิเนียมต่างๆ ริมเส้นทางรถไฟฟ้า โดยทำเลที่เป็นพันธมิตรตอนนี้คือ ไอดีโอ, โนเบิล, ริธั่ม และ คิวเฮาส์ เป็นต้น, 2. บริการClick & Collect สั่งสินค้าผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยขณะนี้ลูกค้าสามารถรับสินค้าที่ 3 สาขา คือ พระรามสี่, พลัส มอลล์ ศรีนครินทร์ และสาขาหางดง จ.เชียงใหม่ จากนั้นยังเตรียมขยายสู่สาขาอื่นๆ ต่อไป
3. บริการส่งสินค้าทางรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีทั้งที่ร่วมมือกับแฮปปี้ เฟรช และเปิดตัวรถจักรยานยนต์ของตัวเองด้วย ทั้งยังจะมีรถกระบะในเดือน ก.ค. ศกนี้ และ 4. เทคโนโลยีไอบีคอน (iBeacon) เป็นเทคโนโลยีที่ส่งข้อมูลถึงลูกค้าโดยตรงทั้งโปรโมชันและเกร็ดความรู้สินค้าเมื่อลูกค้าเดินผ่านจุดปล่อยสัญญาณ โดยขณะนี้ติดตั้งแล้ว 5 สาขา และจะทยอยติดตั้งให้ครบ 1.8 พันสาขาในเดือน ก.ค. ศกนี้
สำหรับแผนหลักด้านออนไลน์จากนี้คือ 1. ปรับปรุงบริการ พัฒนานวัตกรรมด้านออนไลน์ 2. รักษาตำแหน่งผู้นำและสร้างมูลค่าตลาดออนไลน์ให้ใหญ่ขึ้น 3. ทำการตลาดและลงทุนด้านออนไลน์ต่อเนื่องเพื่อเพิ่มปริมาณลูกค้า
ทั้งนี้ ชอปปิ้งออนไลน์ในไทยมีแนวโน้มเติบโตดีเนื่องจากจำนวนคนไทย 56% หรือประมาณ 38.7 ล้านคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต และใช้ทุกวัน 86% ขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน 45% เติบโต 30% จากปีที่แล้ว โดยคนไทยซื้อสินค้าผ่านออนไลน์แล้วกว่า 23 ล้านคน หรือคิดเป็น 3.8% ของมูลค่าค้าปลีกในปี 2558 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 15% ในปี 2567
ขณะที่ข้อมูลลูกค้าชอปปิ้งออนไลน์ของ “เทสโก้ โลตัส” พบว่า เป็นลูกค้ากลุ่มผู้หญิง 77% ลูกค้าผู้ชาย 23% อายุเฉลี่ย 25-44 ปี รายได้กลางขึ้นสูง มูลค่าการซื้อมากกว่าในสโตร์ 3.5 เท่า โดย “เทสโก้ โลตัส” มีผู้ถือบัตร “คลับการ์ด” 15 ล้านราย แต่เป็นสัดส่วนที่ซื้อผ่านออนไลน์เพียงหลักแสนเท่านั้น แต่คาดว่าปีนี้จะเพิ่มปริมาณเป็น 1 ล้านรายของผู้ถือบัตร
ทั้งนี้ “เทสโก้ โลตัส” มีแพลตฟอร์มออนไลน์ 2 ส่วน คือ 1. “อี-คอมเมิร์ซ” ขายสินค้าผ่าน 2 ช่องทาง คือ “เทสโก้ โลตัส ชอปปิ้งออนไลน์” มีสินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ และในเว็บไซต์ “ลาซาด้า” มีสินค้ากว่า 9 พันรายการ ส่วนที่ 2 คือ “ดิจิตอลคอนเนกชัน” ที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าในโซเชียลมีเดียและช่องทางดิจิตอลอื่นๆ คือแฟนเพจ 2.75 ล้านราย และแฟนในแอปพลิเคชันไลน์กว่า 27 ล้านคน ถือเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าปลีก