“อนันต์ อัศวโภคิน” ชี้อสังหาฯ ถึงจุดต่ำสุดตั้งแต่ปี 58 ระบุปีนี้ ตลาดเริ่มฟื้นตัว บวกปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยต่ำ วัสดุก่อสร้าง แรงงานไม่ขยับ ราคาน้ำมันยังทรงตัว พร้อมเรียกร้องหากมีการเลือกตั้งก็น่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เผยการทำตลาดออนไลน์หนุนยอดขายบริษัทแลนด์ฯ เพิ่มขึ้น 40%
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยภายในงานเปิดตัวหลักสูตร “The Next Real รุ่น 2” ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยชินวัตร โดยกล่าวยอมรับว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ถึงจุดต่ำสุดตั้งแต่ปี 2558 และในปีนี้จะค่อยๆ ฟื้นตัว และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการแนวราบทั้งที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และกลุ่มของทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3 ล้านบาทค่อนข้างเติบโต ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมปีนี้อาจจะชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ผลจากมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“คิดว่าตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวช้าๆ บวกกับปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยที่ต่ำ เงินกู้ประมาณ 7-8% แต่แล้วแต่ประเภทลูกค้า ซึ่งไม่สูงเหมือนช่วงวิกฤต 14-15% ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างและแรงงานยังไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากราคาน้ำมันยังไม่สัญญาณขยับขึ้น ทำให้ต้นทุนในการขนส่งไม่ส่งผลถึงต้นทุนประเภทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าหากมีการเลือกตั้งก็น่าจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะการเมืองไม่มีปัญหา เหตุเราอยู่การเมืองแบบนี้มา 10 กว่าปี”
สำหรับตลาดในต่างจังหวัดเชื่อว่าเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรจะตกต่ำ แต่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์กลับมีเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในอีก 3 ปีข้างหน้าระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าในสายต่างๆ เชื่อว่าจะทำให้ที่ดินมีราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการรายใหญ่พยายามหาซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาโครงการใหม่ และจะยิ่งสร้างความได้เปรียบมากกว่าผู้ประกอบการรายกลาง และรายเล็ก ซึ่งตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงเกินกว่า 70%
“เราเห็นว่าระบบการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป ระบบฟรีแฟบเข้ามามีส่วนสำคัญในการก่อสร้าง ซึ่้งการที่บริษัทขนาดใหญ่มีโรงงานของตนเอง การดูแลจำเป็นต้องดำเนินการตลอด การผลิตที่อยู่อาศัยออกมาจำนวนมาก เพื่อรันให้โรงงานมีการผลิตต่อเนื่องในภาวะตลาดชะลอตัว เรื่องกำหนดราคาที่ต่ำลงอาจจะส่งผลต่อกำไรที่ลดลง และในระยะยาวแล้วรายกลาง และรายเล็กอาจจะอยู่ไม่ได้”
นอกจากนี้ ยังมองว่าผู้ประกอบการจะหันมาทำการตลาดออนไลน์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าในอนาคตจะไม่เห็นการทำการตลาดในแบบเดิมๆ อีกแล้ว นอกจากนี้ ยังจะช่วยลดกระดาษซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการบริหารต้นทุน ซึ่งบริษัทเองได้มีการทำการตลาดออนไลน์มาแล้ว 3 ปี สามารถทำยอดขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 30-40%
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยชินวัตร และบริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด เปิดหลักสูตรอบรมระยะสั้น “The Next Real” ซึ่งเป็นหลักสูตรเพื่อสร้างนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ ให้ตรงต่อความเปลี่ยนแปลงของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงการเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ทางธุรกิจ
