xs
xsm
sm
md
lg

ยูบิลลี่ฯ เดินหน้าปั๊มกำไร “กองทุนเทมเพิลตัน” ยังกอดหุ้นแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยูบิลลี่ฯ ประกาศเดินหน้านโยบายปั๊มกำไรต่อเนื่อง หลังกำไรสุทธิไตรมาสแรกทะยาน 22% สวนทางเศรษฐกิจซบ ระบุการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กร ควบคู่กับการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้ผล ขณะที่ “กองทุนเทมเพิลตัน” ยังกอดหุ้นไม่ปล่อย สะท้อนพอใจผลตอบแทนหลังบริษัทปันผลปีละ 2 ครั้งต่อเนื่องทุกปี

น.ส.อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทยังคงนโยบายให้ความสำคัญต่อการเพิ่มกำไรสุทธิมากกว่ายอดขาย หลังผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2559 ออกมาดี บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 34.45 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอยู่ โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 8.80%

สาเหตุที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท ทั้งการบริหารต้นทุนสินค้าที่ดีขึ้น การบริหารสัดส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น การต่อรองกับซัปพลายเออร์ประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ ยังมีการวางกลยุทธ์การขาย และการตลาดที่ได้ผล โดยเฉพาะการใช้การตลาดออนไลน์ซึ่งลดต้นทุนได้มาก รวมไปถึงการที่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารได้อย่างดี

“เราได้วางยุทธศาสตร์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ การลดต้นทุนมาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 ปีทีผ่านมา ซึ่งก็เห็นผลสำเร็จอย่างมากในไตรมาส 4 ปี 2558 และต่อเนื่องมายังไตรมาส 1 ปี 2559 ที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นมาก ถือว่าเรามาถูกทาง ส่วนช่วงไตรมาส 2 จนถึงขณะนี้บริษัทยังสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีมากเช่นกัน” น.ส.อัญรัตน์ กล่าว

ส่วนกลยุทธ์การขายจะให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ และมีจำนวนจำกัด รวมไปถึงจะเน้นเพิ่มยอดขายสาขาเดิมให้มากขึ้น ซึ่ง ณ สิ้นเดือนเมษายน บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 124 สาขา ส่วนการขยายสาขาในปี 2559 วางเป้าไว้ 5 สาขา สอดคล้องต่อการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า และจะมีบางสาขาที่จะยกระดับจากคีออสก์ขึ้นเป็นร้านเพชร

สำหรับแนวโน้มของตลาดเพชรนั้นยังคงมีความต้องการสูงกว่าจำนวนผู้ผลิตเพชรอย่างมาก ซึ่งทำให้แนวโน้มของราคาเพชรยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนกำลังซื้อในประเทศนั้นเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มภาคกลาง และภาคเหนือที่หันมาซื้อเพชรเพิ่มขึ้น

บริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากกองทุนเทมเพิลตัน ที่ถือหุ้นของบริษัทมาอย่างยาวนาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลตอบแทนที่บริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการจ่ายปันผลที่เป็นจุดเด่นของบริษัทมาโดยตลอด ด้วยนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ และจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้นักลงทุนในระยะยาวได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ

ทั้งนี้ บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ว่า บริษัทมียอดขาย จำนวน 329.01 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.8% เป็นผลมาจากการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าบางส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ในส่วนกำไรกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1 ปี 2559 เท่ากับ 151.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8% ส่วนกำไรสุทธิมีมูลค่า 34.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น