xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด ปตท.ชี้ขาดธุรกิจถ่านหิน 27 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปตท.เตรียมชงบอร์ดชี้ขาดธุรกิจถ่านหิน 27 พ.ค.นี้ว่าจะขายทิ้งหรือเก็บไว้ หลังจากไตรมาส 1 นี้พลิกมีกำไรอีกครั้งหลังลดต้นทุนการผลิตเหลือ 30 เหรียญสหรัฐ/ตัน แย้ม ปตท.สผ.จ่อซื้อหุ้นในแหล่งบงกช-ยาดานาหากเชลล์และเชฟรอนฯ จ่อขาย

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วันที่ 27 พ.ค.นี้จะเสนอให้บอร์ดฯ พิจารณาว่า ปตท.ควรจะทำธุรกิจถ่านหินต่อไปหรือไม่ หลังจากไตรมาส 4/2558 ธุรกิจถ่านหินประสบปัญหาขาดทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ถ่านหิน 2 หมื่นล้านบาท แต่ไตรมาส 1/2559 ธุรกิจถ่านหินได้มีการปรับลดต้นทุนการผลิตลงทำให้พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนขายธุรกิจถ่านหินออกไป เพราะกลุ่ม ปตท.มีกระแสเงินสดสูงถึง 3.8 แสนล้านบาท

แม้ว่าแนวโน้มราคาถ่านหินจะปรับตัวขึ้นช้ากว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบก็ตาม แต่ก็มองว่าเป็นธุรกิจที่ยังมีอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยชะลอการลงทุนในแหล่งผลิตใหม่ แต่เน้นการผลิตถ่านหินใน 2 เหมืองเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายผลิตถ่านหิน 8 ล้านตัน โดยไตรมาสแรกผลิตไปแล้ว 2 ล้านตัน

“แนวโน้มน่าจะ Keep ธุรกิจนี้ไว้อยู่ โดยไม่รีบร้อนขายออกไปในราคาที่ขาดทุน เนื่องจากราคาถ่านหินยังต่ำอยู่ ขณะเดียวกันก็คงการลงทุนสำรวจแหล่งใหม่เพิ่มเติมในบรูไน โดยไตรมาส 1/2559 ธุรกิจถ่านหินมีกำไร 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาส 1/2558 ที่มีกำไรถึง 23 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากปริมาณการขายลดลงและราคาต่ำลง โดยปัจจุบันราคาตลาดอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ต้นทุนการผลิตถ่านหินบริษัทอยู่ที่ 30 เหรียญสหรัฐ/ตัน”

นายวิรัตน์กล่าวต่อไปว่า จากสภาพคล่องในมือของกลุ่ม ปตท.ที่มีอยู่สูงเกือบ 4 แสนล้านบาท ดังนั้นในปีนี้จะเห็นการลงทุนซื้อแหล่งปิโตรเลียมเพิ่มเติมของ ปตท.สผ. แทนการลงทุนเจาะสำรวจในแหล่งที่มีต้นทุนสูง เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีการเสนอขายหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมออกมา เช่น เชลล์ก็จะขายหุ้นที่ถือในแหล่งบงกช และเชฟรอนจะขายหุ้นในแหล่งยาดานาที่พม่า โดย ปตท.สผ.คงจะใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในการซื้อหุ้นดังกล่าวก่อน

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้การดำเนินธุรกิจของในกลุ่ม ปตท.มีเสถียรภาพดี โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซฯ ทั้งโรงแยกก๊าซฯ ทำกำไรได้มากขึ้น แต่โรงกลั่นมาร์จิ้นจะต่ำลงเล็กน้อย โดยเชื่อว่าค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนโอเลฟินส์คิดว่าปลายปีนี้ราคาดีขึ้น แต่อะโรเมติกส์ราคาจะอ่อนตัวลงจากปีก่อน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปีนี้จะอยู่ที่ 35-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ในปีนี้ ปตท.ตั้งเป้าหมายว่า NGV จะมีปัญหาขาดทุนแม้ว่าไตรมาสแรกจะขาดทุนจากNGV 937 ล้านบาทก็ตาม เนื่องจากราคาขายและต้นทุนเข้าสู่จุดสมดุล

ส่วนกรณีที่มีความเห็นต่างเรื่องการคืนท่อส่งก๊าซฯ ปตท.นั้น ปตท.ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมหารือกับทุกฝ่ายตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเสนอ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามคำสั่งของศาลปกครอง

ส่วนหุ้นกู้สกุลบาทในปีนี้ที่จะครบกำหนดชำระ 4 หมื่นล้านบาท ทาง ปตท.จะดำเนินการไถ่ถอนแต่จะไม่มีการออกหุ้นกู้ใหม่ รวมทั้งจะมีการซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ก่อนกำหนดประมาณ 10-20% ของมูลค่าหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดค่อนข้างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น