ผู้จัดการรายวัน360 - กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับกลุ่มเหงียนคิม ประกาศซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนาม อย่างเป็นทางการแล้ว มูลค่า 920 ล้านยูโร เสริมทัพความยิ่งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัลในการลงทุนในประเทศแถบเอเชีย
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับกลุ่มเหงียนคิม ของเวียดนาม เข้าซื้อกิจการบิ๊กซี ประเทศเวียดนาม อย่างเป็นทางการ สำหรับบิ๊กซี เวียดนาม ได้ดำเนินการมาแล้วยาวนานกว่า 18 ปี มีทั้งสิ้น 43 สาขา ในประเทศเวียดนาม ซึ่งแบ่งเป็นดังต่อไปนี้ คือ ไฮเปอร์มาร์เกต 33 สาขา, คอนวีเนียนสโตร์ 10 สาขา และเป็นศูนย์การค้า 30 แห่ง โดยมียอดขายในปี 2558 ราว 586 ล้านยูโร
กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ได้แก่ เหงียนคิม ด้วยความสัมพันธภาพทีดีนี้เเองจึงทำให้กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม และเหงียนคิม ประสบผลสำเร็จร่วมกัน จนทำให้เกิดการขยายตัวธุรกิจ จนกระทั่งได้เข้าซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนามในที่สุด
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มเซ็นทรัล มุ่งมั่นที่จะวางแผนขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัลได้มีการขยายธุรกิจในเวียดนามมาก่อนหน้าแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย
ในปี 2013 (ตุลาคม พ.ศ.2556) กลุ่มเซ็นทรัล ได้บุกตลาดเออีซีเป็นครั้งแรก ด้วยการรุกตลาด สปอร์ต รีเทล (Sport Retail) โดยเปิดตัวร้าน ซูเปอร์สปอร์ต (Supersports) แห่งแรกในเวียดนาม ด้วยพื้นที่กว่า 450 ตร.ม. ที่ห้างสรรพสินค้า Vincom Center Ba Trieu ห้างหรูอันดับ 1 ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รวมทั้งร้าน คร็อคส์ (Crocs) และร้านนิวบาลานซ์ (New Balance)
ในปี 2014 (พ.ศ.2557) ได้เปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์ 2 สาขา คือ สาขาแรก ได้แก่ สาขาฮานอย และสาขาโฮจิมินห์ ซิตี หวังเจาะประชากรเวียดนามที่มีกว่า 90 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด ซึ่งมีกำลังซื้อสูงประมาณร้อยละ 60 โดยสาขาฮานอย เปิดเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 57 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10,000 ตร.ม. บริเวณชั้นบี 1 ของโรยัลซิตี้ เมืองฮานอย ซึ่งเป็นเมกะมอลล์ขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุด ต่อมา ในเดือนธันวาคม 57 ได้เปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์ สาขาที่ 2 ณ กรุงโฮจิมินต์ ซิตี มีพื้นที่ 12,000 ตร.ม. งบลงทุน 130 ล้านบาท
ในปี 2015 (มกราคม พ.ศ.2558) กลุ่มเซ็นทรัล ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของเวียดนาม “เหงียน คิม เทรดดิ้ง จอยท์ สต็อค คอมพานี” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อันดับ 1 ของเวียดนาม ในนามเพาเวอร์บาย โดยถือหุ้น 49% ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้จะสามารถขยายกิจการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเพาเวอร์บาย ไปในประเทศเวียดนาม โดยผ่านสาขาของ เหงียน คิม ที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุม ถึง 21 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศในกลุ่มเออีซีของกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วย การลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย โดยในปี 2014 (พฤศจิกายน พ.ศ.2557) ได้เปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ภายในศูนย์การค้าอีท มอลล์ แกรนด์ อินโดนีเซีย มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ตร.ม. มีแบรนด์สินค้ากว่า 500 แบรนด์ เช่น Isabel Marant, Kenzo, Karl Lagerfeld, Marc by Marc Jacobs, RedValentino และ Vivienne Tam เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้พบกับแบรนด์ไทย และแบรนด์จากดีไซเนอร์ชื่อดังของไทย ที่มีวางจำหน่ายภายในห้างกว่า 100 แบรนด์ เช่น 4x4Man , Greyhound, John Henry, Boyy, Disaya, Dapper, Something Boudoir นับเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัล ต้อนรับยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
กลุ่มเซ็นทรัล รุกเข้าซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งเสื้อผ้า แฟชั่น “กลุ่ม HCH” โดยกลุ่ม HCH เป็นกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นในตลาดโลคอล มาเลย์ ซึ่งได้รับความนิยม และมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศมาเลยเซีย ได้แก่ แบรนด์เสื้อผ้าชาย John Master (จอห์น มาสเตอร์) แบรนด์เสื้อผ้าเด็กชาย และเด็กหญิง Kiko (กิโก้) แบรนด์ชุดเสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา Schwarzenbach (ชวาเซนบาส) แบรนด์เสื้อผ้าเด็กชาย และเด็กหญิงสำหรับใส่ออกงานปาร์ตี้ Trudy & Teddy (ทรูดี้ แอนด์ เทดดี้) และแบรนด์เสื้อผ้าชายกลุ่มพรีเมียม The Club (เดอะ คลับ)
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนาม ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมทัพให้กลุ่มธุรกิจในแถบเอเชียแข็งแกร่งขึ้นแล้ว คาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งกลุ่มเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือมากกว่า 337,040 ล้านบาท (รวมทุกกลุ่มธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ)