ผู้จัดการรายวัน 360 - “จิราธิวัฒน์” ยืนยันไม่ขายหุ้น “บิ๊กซี” ในไทยที่ถืออยู่ 25% แน่นอน เผยยังไม่มีการประชุมกับผู้ถือหุ้นใหม่ ยันสนใจประมูลซื้อ “บิ๊กซี” ที่เวียดนามแน่ ดีเดย์ยื่นราคา 10 มี.ค. 59
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัล” ยืนยันว่าจะไม่มีการขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 25% แต่อย่างใด หลังจากที่กลุ่มของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จากการซื้อหุ้นในส่วนของ “กลุ่มคาสิโน” เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นบิ๊กซีเลยนับตั้งแต่นายเจริญเข้ามาซื้อหุ้น
“กลุ่มเซ็นทรัล” ก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “บิ๊กซี” ขึ้นมาตั้งแต่แรกเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้วเพื่อเข้าสู่ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เกต เช่นเดียวกับ “คาร์ฟูร์” ที่เซ็นทรัลก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วยตั้งแต่แรก จนในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาเซ็นทรัลจึงเชิญทางกลุ่มคาสิโนเข้ามาเพิ่มทุนจดทะเบียนและเป็นผู้บริหารมาตลอด โดยที่เซ็นทรัลลดหุ้นบางตัวลงมาเหลือ 25% จนถึงปัจจุบันก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการ “คาร์ฟูร์” ในไทยเมื่อไม่นานนี้ โดยในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา “บิ๊กซี” ในไทยมีการพัฒนาและมีการเติบโตที่ดีมาตลอดจนอยู่ในขั้นที่เรียกว่ามั่นคงแล้ว จากนี้ไปคงไม่เติบโตแบบหวือหวาเหมือนอดีต
สำหรับกิจการ “บิ๊กซี” ที่ประเทศเวียดนามซึ่งก็จะมีการขายกิจการเช่นกันนั้น นายทศกล่าวว่า เซ็นทรัลมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน ล่าสุดทราบว่าจะมีการเปิดประมูลรอบแรกในวันที่ 10 มี.ค. ศกนี้ คาดว่ามูลค่าการประมูลซื้อขายคงจะอยู่ในระดับ 2 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ แต่ก็มีความสนใจแน่นอนเพราะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โดยเฉพาะวิธีการเข้าประมูลซื้อขายในเวียดนามที่มีความซับซ้อนมาก พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการตกลงกับกลุ่มของนายเจริญ ว่าเซ็นทรัลจะขายหุ้นบิ๊กซีในไทยให้ เพื่อแลกกับการที่นายเจริญจะไม่แย่งประมูลบิ๊กซีเวียดนาม
“ตอนนี้มีหลายกลุ่มที่สนใจบิ๊กซีเวียดนาม ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แต่ละรายก็ใหญ่ๆ ทั้งนั้น เราก็สนใจมากเหมือนกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการ”
หากเซ็นทรัลได้บิ๊กซีเวียดนามเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอจะทำให้มีรายได้ในเวียดนามเพิ่มเป็น 2 เท่าจากปัจจุบันที่มีรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท รวมกับรายได้ของบิ๊กซีในเวียดนามอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท รวมกันก็จะเป็น 4 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าเซ็นทรัลไม่ได้บิ๊กซีเวียดนามก็จะยังคงขยายตัวในเวียดนามและตลาดซีแอลเอ็มวีต่อไปเหมือนเดิม
