ผู้จัดการรายวัน 360 - “แคนนอน ไฮยีน” ผู้นำด้านบริการสุขอนามัยภัณฑ์ในระดับสากล ในเครือ “โอซีเอส กรุ๊ป” จากอังกฤษ เปิดตัวผลิตภัณฑ์สุขอนามัยรูปโฉมใหม่ดีไซน์สุดล้ำโฉบเฉี่ยวภายใต้ชื่อ “Imagine” ปฏิวัติรูปแบบเดิมๆ ของผลิตภัณฑ์สุขอนามัยในห้องน้ำเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์และความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ พร้อมยกระดับประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้งาน
นายเซบัสเตียน พาวเวอร์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัทรักษาความปลอดภัย บริษัท พีซีเอส และ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยว่า “พีซีเอส” เป็นผู้ให้บริการบริหารอาคารแบบครบวงจร ซึ่งปัจจุบันได้จัดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลักคือ กลุ่มธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจค้าปลีก หรือห้างสรรพสินค้า กลุ่มอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย และกลุ่มสุดท้ายคือธุรกิจโรงพยาบาลและสถานศึกษา
บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้าในทุกๆ ด้าน รวมถึงด้านสุขอนามัยในห้องน้ำที่เป็นส่วนหนึ่งในอาคาร แนวโน้มของตลาดด้านสุขอนามัยในห้องน้ำกำลังเป็นที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในแถบภาคพื้นเอเชียที่กำลังตื่นตัวในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดจึงมองว่าธุรกิจ “แคนนอน ไฮยีน” ยังสามารถเติบโตเป็นดาวรุ่งของกลุ่ม “โอซีเอส” ได้ในอนาคต
ในส่วนของบริการสุขอนามัยภัณฑ์ในห้องน้ำ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์โฉมใหม่ล่าสุดเพื่อตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ระดับโลก โดยคาดหวังให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เหนือระดับ
ด้าน นางสาวอคริมา อภิพรพัชร ผู้อำนวยการส่วนธุรกิจ “แคนนอน ไฮยีน” กล่าวว่า “แคนนอน ไฮยีน” เป็นผู้นำด้านบริการและผลิตภัณฑ์สุขอนามัยในห้องน้ำที่ส่งมอบประสบการณ์ในห้องน้ำที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้ามายาวนานกว่า 60 ปีในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ด้วยบริการที่ครบวงจรและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องจ่ายสบู่ เครื่องกระจายกลิ่นหอม สุขอนามัยภัณฑ์สำหรับสุภาพสตรี รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จ่ายน้ำยาฆ่าเชื้อแบบต่างๆ
ห้องน้ำถือว่ามีส่วนสำคัญในการสะท้อนถึงภาพลักษณ์ทางธุรกิจ ดังนั้นการดูแลห้องน้ำให้มีความสะอาดถูกสุขลักษณะอยู่เสมอจึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร อย่างไรก็ดี สิ่งที่ “แคนนอน ไฮยีน” ให้ความสำคัญสูงสุดไม่ใช่แค่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรือการบริการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพอใจของผู้ใช้ที่ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ให้เกิดความประทับใจสูงสุดอีกด้วย
ทั้งนี้ ชุดผลิตภัณฑ์สุขอนามัยในห้องน้ำใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย เครื่องจ่ายสบู่เหลวอัตโนมัติขนาด 500 มล. เครื่องพ่นสเปรย์สบู่ขนาด 400 มล. ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติ Shake and Wake ที่มีขนาดเล็กลงและเข้มข้นกว่าเดิมถึง 5 เท่า ไม่ใช้แบตเตอรี่และสามารถติดตั้งบนผนัง หรือในถังน้ำได้
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีขนาดที่เล็กลงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าซึ่งถือว่ามีขนาดเล็กกว่ารายอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด ขณะที่สีสันมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่สีขาว ดำ และสีเงิน และยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย และยังมาพร้อมคุณสมบัติที่ปรับเปลี่ยนได้ง่าย โดยที่ฝาหน้าของอุปกรณ์สามารถถอดเปลี่ยนได้ ทำให้สามารถเปลี่ยนสีสันในห้องน้ำได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามาก โดยอุปกรณ์ทุกชิ้นจะติดตั้งระบบ RFID (Radio Frequency Identification) ไว้ด้วย
ผลิตภัณฑ์ใหม่ยังได้รวบรวมคุณสมบัติที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์เดิมเอาไว้ด้วย เช่น เครื่องจ่ายสบู่เหลวอัตโนมัติขนาด 1,100 มล. ซึ่งเป็นขนาดที่จ่ายสบู่ได้จำนวนครั้งที่มากที่สุดในตลาด EcoFresh, นวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีเซลล์พลังงาน เพื่อช่วยกระจายกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยให้คงความหอมสดชื่นตลอดวัน และ Cannon Curve ที่สามารถตกแต่งให้เข้ากับผนังห้องน้ำได้อย่างลงตัว
“การเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ Imagine ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจให้ล้ำหน้าขึ้นไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่มาพร้อมดีไซน์ที่ปฏิวัติภาพเดิมๆ ของผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่เป็นแค่อุปกรณ์ใช้งานในห้องน้ำ เปลี่ยนมุมมองของผู้ใช้ให้สัมผัสถึงความพิเศษของดีไซน์ที่ผสมผสานกับฟังก์ชันการทำงานที่ครบวงจร และสีสันใหม่ๆ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของอาคารสถานที่ให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ที่เหนือกว่าห้องน้ำทั่วๆ ไป”
สำหรับขนาดและรูปทรงของดีไซน์ใหม่นี้จะมีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยกะทัดรัดแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ พร้อมรองรับเทคโนโลยี RFID เพื่อส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างตรงจุด
“เราคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ชุดนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของความพึงพอใจของผู้ใช้อาคารสถานที่และร่วมปฏิวัติรูปแบบของห้องน้ำเดิมๆ ไปกับเราเพื่อให้เกิดการยกระดับและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปีที่ผ่านมา” นางสาวอคริมา กล่าวสรุป